ชุดสืบสวน ภ.3 ตามรวบหนุ่มใหญ่อ้างเป็นรอง ผบก.น.9 นั่งนายเวรหน้าห้อง ผบ.เด่น หลอกตำรวจจริง วิ่งเต้นซื้อตำแหน่งเป็นสารวัตร เรียกค่าดำเนินการรายละ 3 แสน โล่งอกตำรวจทั้ง 14 นาย ยังไม่หลงเชื่อโอนเงิน

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ.3. ผอ.ศปส.ภ.3, พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3, พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.สส.ภ.3, พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.3 พร้อมด้วยชุดสืบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายกานพล กองมงคล อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาปลอมตัวเป็นรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ 108/65 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2565 พร้อมของกลางประกอบด้วย สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, บัญชีรายชื่อข้าราชการตำรวจระดับรองสารวัตร 8 แผ่น, วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง, ซิมโทรศัพท์มือถือ 11 อัน และบัตรเอทีเอ็มอีก 1 ใบ

...

โดยชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ที่ภายในห้องเช่า ชั้น 3 ร้านเกมส์ไอเพลย์ เลขที่ 43/6 ถ.เถวฤทธิ์ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่ง นายกานพล ให้การรับสารภาพว่า ได้แอบอ้างเป็น พ.ต.อ.พรชัย ชะลอเดช รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย โดยได้นำรูปของ พ.ต.อ.พรชัย ไปใช้เป็นรูปประจำตัวในแอปพลิเคชันไลน์ และได้ทำการติดต่อหลอกลวงนายตำรวจระดับรองสารวัตร จำนวน 14 ราย ซึ่งรายชื่อนายตำรวจทั้งหมดได้มาจากบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตำแหน่งระดับรองสารวัตรทั้ง 9 ภาค

โดยผู้ต้องหาจะใช้วิธีการพูดคุยในลักษณะเดียวกันทุกราย โดยใช้วิธีโทรศัพท์เข้าไปหาเจ้าหน้าที่วิทยุสื่อสารของ สภ.ต่างๆ และให้ประสานนายตำรวจหลายคนที่ถูกหลอกให้ติดต่อกลับนายเวรหน้าห้อง ผบ.เด่น (พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.) เบอร์โทรศัพท์ 08-1487-8957 และเมื่อมีนายตำรวจหลงเชื่อก็จะทำทีพูดคุยและแอบอ้างว่าตนเองคือ พ.ต.อ.พรชัย ชะลอเดช รอง ผบก.น.9 โดยหลอกว่าสามารถช่วยเหลือให้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นสารวัตรได้ พร้อมกับให้นายตำรวจส่งประวัติการรับราชการมาให้ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ และเรียกเงินเป็นค่าดำเนินการรายละ 300,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 14 นาย ยังไม่หลงเชื่อ จึงไม่โอนเงินให้ผู้ต้องหา

ต่อมาชุดสืบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 สืบทราบว่า นายกานพล ผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาก่อน และถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวได้มาแล้วเมื่อปี 2555 ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 8 เดือน และต่อมาถูกฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม จับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 62 ถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี ในคดีหลอกฝากเข้านักเรียนนายสิบตำรวจ และที่ สภ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี คดีหลอกเข้านักเรียนนายสิบตำรวจเช่นกัน ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 เดือน พอผู้ต้องหาพ้นโทษออกมาก็ไม่เข็ดหลาบ และยังมีพฤติกรรมแบบเดิมอีก ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนติดตามไปจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานที่ จ.เชียงใหม่ ดังกล่าว

พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายรายนี้เคยกระทำผิดหลายครั้งในหลายพื้นที่ ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นเซลส์ขายแผงโซลาร์เซลล์อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ และเคยคลุกคลีกับพรรคพวกที่เป็นตำรวจมาก่อน ทำให้รู้ถึงแนวทางในการวิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จึงไปซื้อซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ 08-1487-8957 มาใช้ ก่อนนำมาสมัครแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อ พ.ต.อ.พรชัย ชะลอเดช รอง ผบก.น.9 และใช้รูปประจำตัวของ พ.ต.อ.พรชัย ซึ่งหามาได้จากทางโซเชียลมีเดียมาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ จากนั้นใช้วิธีโทรศัพท์ไปตามโรงพักต่างๆ เพื่อสุ่มหลอกลวงนายตำรวจสัญญาบัตร อ้างว่าเป็นนายตำรวจระดับสูงปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงาน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และสามารถช่วยเหลือในการแต่งตั้งโยกย้ายขึ้นดำรงตำแหน่งสารวัตรได้ เมื่อเหยื่อตายใจหลงเชื่อก็จะใช้แอปพลิเคชันไลน์ทักไปหาเพื่อความน่าเชื่อถือ โดยที่เรียกค่าดำเนินการรายละ 300,000 บาท แต่ครั้งนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดหลงเชื่อ ก่อนจะมาถูกติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด.

...