โฆษกศาลเผยตรวจสำนวนพบทนายไก่หมุนสวมรอย 5 คดี ยังไม่สั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณา แต่นัดพร้อมตรวจสอบ 26 ต.ค. แจงคดียักยอกทรัพย์ที่ชนะอัยการอยู่ที่ศาลกำแพงเพชร ร่วมกับทนายตัวจริงว่าความจนศาลยกฟ้อง

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 65 นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้า ในการดำเนินคดีพ่อค้าไก่หมุน ปลอมเป็นทนายความไปว่าความคดีในศาลจังหวัดกำแพงเพชร ว่าจากการตรวจสอบจนถึงปัจจุบันพบคดีที่นายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์ พ่อค้าขายไก่หมุนปลอมเป็นทนายความไปว่าความจำนวน 5 เรื่อง แบ่งเป็นศาลจังหวัดกำแพงเพชร 3 คดี ศาลนครสวรรค์ 1 คดี ศาลพิษณุโลก 1 คดี ส่วนที่มีข่าวว่า ศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนคดีหมิ่นประมาทในศาลจังหวัดกำแพงเพชรที่นายพรเทพไปว่าความนั้น ข้อเท็จจริงศาลยังไม่ได้มีคำสั่งแต่มีการนัดพร้อมเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในกระบวนพิจารณาในวันที่ 26 ต.ค.นี้ แต่ยังไม่ได้มีคำสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาแต่อย่างใด โดยคดีที่ว่าดังกล่าวนี้ไม่ได้มีคู่ความร้องขอแต่เป็นเรื่องที่ศาลเห็นเอง ส่วนที่มีการอ้างว่ามีคดีที่นายพรเทพไปว่าความฝั่งจำเลย และชนะคดีที่มีพนักงานอัยการเป็นโจทก์นั้นข้อเท็จจริง คือ คดีดังกล่าวเป็นคดียักยอกทรัพย์มีจำเลย 3 คนซึ่งทุกคนต่างมีทนายความ

โดยจำเลยที่ 2 ซึ่งมีทนายความ 2 คน คือ นายพรเทพ ทนายปลอมและทนายอีกคนซึ่งเป็นทนายตัวจริง และมีใบอนุญาตว่าความ โดยวันที่สืบพยานก็มีทนายที่มีใบอนุญาตว่าความดำเนินกระบวนพิจารณาด้วย เรียกได้ว่าคดีนั้นมีทนายความฝั่งจำเลย 3-4 คน จึงสู้ชนะยกฟ้องคดียักยอกทรัพย์ ส่วนทนายที่ใบอนุญาตตัวจริงจะทราบว่านายพรเทพเป็นทนายปลอมหรือไม่ ตนไม่ทราบ ซึ่งลักษณะคดียักยอกนี้ศาลได้มีการตรวจสอบแล้วอาจจะไม่จำเป็นต้องเพิกถอน เพราะมีกระบวนพิจารณาที่ถูกต้อง มีทนายที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องเป็นทนายในคดีไม่ใช่มีนายพรเทพคนเดียว เรียกว่ากระบวนการครบถ้วน

...

ในส่วนพื้นที่ทางศาลยังตรวจไม่พบเจออยู่ 5 คดีที่กล่าวมา ส่วนการดำเนินคดีนอกจากกำแพงเพชรที่แจ้งความไว้แล้วทางศาลพิษณุโลกและนครสวรรค์ก็ส่งผู้อำนวยการศาลไปแจ้งความความผิดที่เกี่ยวข้องนอกจากความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลที่ศาลสามารถตั้งสำนวนเองได้ โดยการกระทำผิดของนายพรเทพก็จะเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระว่ากันไปแต่ละคดี ถ้ามีการลงโทษก็จะเป็นการนับโทษต่อ.