เพื่อนร่วมรุ่นนายสิบตำรวจ "ส.ต.อ.ปัญญา" อดีตตำรวจใจเหี้ยม กราดยิงหนองบัวลำภู และเป็นเพื่อนร่วมโรงพัก บรรจุครั้งแรกที่ สน.ยานนาวา เผยเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงไม่สุงสิงกับใคร ชอบเล่นกีตาร์คนเดียวในห้อง ไม่เข้ากลุ่มไลน์ ไม่เล่นโซเชียล ไม่สามารถทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้ เลยถูกให้ไปเป็นพลขับ เดินเอกสาร น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เครียด และหันไปหายาเสพติด

จากกรณี ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อดีตตำรวจคลั่งก่อเหตุใช้อาวุธปืน มีด กราดยิงและแทง ครู เด็กนักเรียน และชาวบ้าน ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 38 ศพ รวมทั้งตัวผู้ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 65 ที่ สน.ยานนาวา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดต่อไปยัง จ.ส.ต.ธาณี ญาติโสม ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.ยานนาวา เพื่อนตำรวจร่วมรุ่นนักเรียนนายสิบตำรวจของ ส.ต.อ.ปัญญา ผู้ก่อเหตุ เพื่อสอบถามถึงพฤติกรรม เนื่องจาก ส.ต.อ.ปัญญา เคยปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายงานป้องกันปราบปรามที่ สน.ยานนาวา โดยที่เพื่อนร่วมรุ่นเปิดเผยว่า หลังจากเรียนจบจากโรงเรียนนายสิบตำรวจนครบาล รุ่น 58 ตนและผู้ก่อเหตุได้เลือกมาลงบรรจุรับราชการที่ สน.ยานนาวา ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม หรือสายตรวจ ลักษณะงานคือ แต่งกายในเครื่องแบบ และบริการพบปะประชาชน แต่ขณะนั้นผู้ก่อเหตุจะมีคู่เวรเป็นรุ่นพี่ และแยกกันเข้าปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกันที่ สน.ยานนาวา ผู้ก่อเหตุไม่มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด ส่วนอุปนิสัยส่วนตัวนั้นในเวลางานจะทำงานดี ไม่เคยขาด หรือลา ไม่มีปัญหาอะไร พูดจากับเพื่อนร่วมงานตามปกติ แต่หากเลิกงานแล้วจะกลายเป็นคนเก็บตัวอยู่ในห้องพักที่แฟลตตำรวจ ไม่สุงสิงกับเพื่อน หรือออกไปสังสรรค์กับใคร มักเล่นกีตาร์ เปิดเพลง ร้องเพลงเพียงลำพังในห้องเท่านั้น บางครั้งก็จะเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ออกไปข้างนอกเพียงลำพัง ซึ่งไม่ทราบว่าออกไปไหน และยังไม่เคยเห็นผู้ก่อเหตุยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ หรือสุราเลยตลอดที่ทำงานร่วมกัน จนผู้ก่อเหตุย้ายไปที่ สน.ลุมพินี และขาดการติดต่อกันไป

...

จ.ส.ต.ธาณี เปิดเผยอีกว่า ขณะนั้นผู้ก่อเหตุก็มีแฟนบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่ยังไม่มีครอบครัวอย่างจริงจัง ตลอดเวลาที่ทำงานนั้นก็ไม่มีปัญหากับผู้บังคับบัญชา หรือมีเรื่องร้องเรียนการทำงานจากประชาชนแต่อย่างใด รวมถึงไม่เคยปรับทุกข์ หรือบ่นอะไรให้เพื่อนฟัง เพราะรู้จักแค่เป็นเพียงเพื่อนร่วมรุ่น และพูดคุยเฉพาะเรื่องงาน แต่เรื่องชีวิตส่วนตัว ผู้ก่อเหตุไม่เคยเล่า หรือระบายให้ใครฟัง อีกทั้งผู้ก่อเหตุเองก็ไม่ได้เข้ากลุ่มไลน์เพื่อนร่วมรุ่นด้วย ส่วนในเรื่องที่ผู้ก่อเหตุชอบเล่นปืนโดยส่วนตัวไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ทราบว่าเจ้าตัวมีอาวุธปืนที่จัดหามาด้วยตัวเองเพียงกระบอกเดียวเท่านั้น หลังจากทราบว่าผู้ก่อเหตุย้ายกลับไปที่ จ.หนองบัวลำภู ก็มีเพื่อนในกลุ่มพยายามติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อได้จนมารู้ข่าวสลดที่เกิดขึ้น

"ทันทีที่ทราบข่าวรู้สึกตกใจและเสียใจมาก ไม่คาดคิดว่าจะก่อเหตุลักษณะนี้ เพราะในสมัยที่ร่วมงานกันก็ไม่มีทีท่าจะเป็นคนฉุนเฉียว หรือพฤติการที่แสดงให้เห็นเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด จึงทำให้มองไม่ออกว่าจะก่อเหตุลักษณะนี้ แต่ไม่ทราบว่าเมื่อกลับไปที่ภูมิลำเนาแล้วเกิดอะไรขึ้น จึงทำให้เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตให้ก่อเหตุแบบนี้" จ.ส.ต.ธาณี กล่าว

มีรายงานว่า หลังจากที่ ส.ต.อ.ปัญญา โยกย้ายจาก สน.ยานนาวา ไปปฏิบัติหน้าที่ ผบ.หมู่ งานสืบสวน สน.ลุมพินี ได้ทำหน้าที่เป็นพลขับให้กับรองผู้กำกับการสืบสวนของสถานีในขณะนั้น แต่ภายหลังพบว่าเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องการทำงาน เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ไม่สุงสิงกับใคร ไม่ค่อยเล่นโซเชียล ทำให้ไม่สามารถทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานเป็นกลุ่มๆ ได้ จึงถูกมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นคนเดินเอกสาร คาดว่าทำให้เจ้าตัวเกิดความเครียดจนอาจหวนกลับไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก ก่อนที่จะทำเรื่องขอย้ายกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภูมิลำเนาที่จังหวัดหนองบัวลำภู และเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว.