ผบ.ตร.เผยอดีตตำรวจคลั่งเคยต้องคดียาเสพติด เป็นเหตุถูกไล่ออกจากราชการเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่าน คาดยังมีพฤติกรรมเสพยาบ้า อาจเกิดความเครียดจนหลอนก่อนก่อเหตุกราดยิงศูนย์เด็กเล็กฯ เตรียมให้แพทย์ชันสูตรปริมาณสารเสพติดในเลือด 7 ต.ค.นี้
จากกรณีอดีตตำรวจคลั่ง ก่อเหตุกราดยิงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู และขับรถชนอีกทั้งไล่ยิงประชาชนตามรายทาง ระหว่างเส้นทางหลบหนีกลับบ้าน ก่อนมาก่อเหตุยิงภรรยา ลูก และตัวเองเสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่าน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 ต.ค. 65 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู และให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ก่อเหตุเคยรับราชการที่ สน.ยานนาวา เมื่อปี 2556 และย้ายไปอีกโรงพักหนึ่ง ก่อนย้ายมาที่ จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมื่อปี 2562 ซึ่ง ผกก.สภ.นาวัง ได้เห็นพฤติกรรมที่มีความสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและตรวจพบยาบ้า จึงจับกุมและดำเนินคดีในข้อหา "ครอบครองยาเสพติด" และให้ออกจากราชการไว้ก่อนในช่วงเดือน ม.ค. 2565 พร้อมสอบสวนทางวินัย และไล่ออกจากราชการเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
...
ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามคาดว่า ผู้ก่อเหตุยังมีพฤติกรรมเสพยาบ้า และต้องไปขึ้นศาลในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) อาจเกิดความเครียดและหลอน จนก่อเหตุที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดังกล่าวไล่ไปจนถึงบ้านตัวเอง ซึ่งการตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนที่ใช้เป็นปืน 9 มม. มีทะเบียนตามกฎหมาย และเป็นอาวุธปืนส่วนตัว
"จะต้องมีการถอดบทเรียนของหน่วยงานตำรวจ เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์ลักษณะนี้ และตรวจสอบผู้ที่มีประวัติติดยาเสพติด เพื่อป้องกันการก่อเหตุรวมทั้งการปฏิบัติงานของตำรวจ เช่น การปิดล้อมผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะเคสคลุ้มคลั่ง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มีอาการตกใจ กว่าจะแจ้งเหตุและตำรวจเดินทางมาก็ใช้เวลาพอสมควร โดยจะนำบทเรียนในครั้งนี้ไปดูว่า จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างไร ขณะที่บ้านผู้ก่อเหตุอยู่ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาจเป็นไปได้ว่าก่อเหตุเพราะใกล้บ้าน หรือผู้เสียหายเป็นเด็กเล็กและง่ายต่อการก่อเหตุ แต่สาเหตุยังไม่แน่ชัด ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะไม่มีประวัติการใช้ยาเสพติดก่อนเข้ารับราชการตำรวจ เพราะมีคณะกรรมการตรวจสอบ" ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากเสพยาเสพติดแล้ว ผู้ก่อเหตุมีความแค้นส่วนตัวกับผู้อื่นที่ถูกฆ่าด้วยหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลละเอียด เพราะพยานยังอยู่ในอาการตกใจและเสียใจ แต่พฤติกรรมของคนเสียสติคลุ้มคลั่งไปที่ไหนใกล้ใครก็ฆ่า เช่นเดียวกับเคสนี้ที่ฆ่าและทำร้ายคนระหว่างเส้นทางมายังบ้านตัวเอง เบื้องต้นทางแพทย์จะทำการชันสูตรและตรวจเลือดว่า ผู้ก่อเหตุมีปริมาณสารเสพติดในร่างกายมากเพียงใด เพื่อเป็นหลักฐานรวมทั้งตรวจค้นบ้านพักผู้ก่อเหตุเพิ่มเติมต่อไป