ผอ.สถานีวิทยุชุมชนฯ ร้องสื่อ จ.ส.อ.ผู้ต้องหาหมายจับคดีลักทรัพย์ ลักเหล็กเสาส่งสัญญาณขายร้านรับซื้อของเก่า ขณะที่ล่าสุดต้นสังกัดทำเรื่องปลด หลังขาดราชการ ตร.แจงกำลังประสานกับต้นสังกัดส่งตัว

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 น.ส.กษิมา จันทรจิตร อายุ 48 ปี และ ผอ.สถานีวิทยุชุมชน ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้นำเอาการแจ้งความ เพื่อเอาผิดกับ จ.ส.อ.นิพนธ์ เกิดสุข สังกัดกองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 และหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ลงวันที่ 15 กันยายน 2565 รวมทั้งเอกสารร้องเรียนพฤติกรรมข้าราชการทหารของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ลงนามโดย พล.ท.ธิรา แดหวา รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว

เพื่อเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ทำการจับกุม จ.ส.อ.นิพนธ์ เกิดสุข ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ ตามหมายจับของศาลมณฑลทหารบกที่ 42 มาดำเนินคดี เพราะตั้งแต่ศาลออกหมายจับแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทำการจับกุม โดยอ้างว่า ผู้ต้องหาอยู่ในค่ายทหาร ทั้งที่ตนเองเห็นว่า ผู้ต้องหายังขับรถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่ในสถานที่ก่อสร้างของตน

โดย น.ส.กษิมา เล่าว่า ตนเองได้ไปก่อสร้างสถานีวิทยุชุมชนอะลีฟเรดิโด ในพื้นที่หมู่ 4 ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา มาได้ระยะหนึ่ง ต่อมาจึงพบว่า เสาเหล็ก เสาส่งสัญญาณ และอุปกรณ์อื่นๆ ถูกขโมยไป 6 รายการ จึงได้ไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.จิรศักดิ์ จันทวีรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.เทพา จ.สงขลา ไปตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

และเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปตรวจสอบยังร้านรับซื้อของเก่า ชื่อร้านรังสิตของเก่า หน้าโรงเรียนเทพา และพบของกลางคือ ท่อนเหล็กของตนอยู่ในร้านดังกล่าว 3 ท่อน และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้นำมาขายคือ จ.ส.อ.นิพนธ์ เกิดสุข ต่อมาจึงได้รวมรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับในเวลาต่อมา

...

นอกจากนั้น น.ส.กษิมา ยังได้ร้องเรียนกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาค 4 ส่วนหน้า ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมของ จ.ส.อ.นิพนธ์

โดย พล.ท.ธิรา แดหวา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภาคในภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีการส่งหนังสือถึง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ จ.ส.อ.นิพนธ์ เพื่อให้พิจารณาดำเนินการต่อไป

ขณะที่ล่าสุดทราบว่า ทางผู้บังคับบัญชาของต้นสังกัด คือ กองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่ 15 ได้มีคำสั่งปลด จ.ส.อ.นิพนธ์ เกิดสุข ออกจากทหารแล้ว หลังขาดราชการเกินกว่า 15 วัน และคาดว่าน่าจะยังคงพัก หรือหลบซ่อนตัวอยู่ใน อ.เทพา หรือใกล้เคียง พร้อมกับได้ประสานไปยังตำรวจ สภ.เทพา เพื่อให้ทำการจับตามหมายจับในคดีลักทรัพย์ต่อไป.