พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง รอง ผบก ภ.จว.พัทลุง เรียกประชุมชุดสืบสวน สั่งเช็กวงจรปิดทุกตัวที่มี เพื่อไล่ล่าคนร้ายควงปืนบุกชิงทองกลางตลาดป่าพะยอม ได้ไป 3 บาท
จากกรณีคนร้ายเป็นชาย รูปร่างสูงโปร่ง อายุไม่เกิน 35 ปี ขับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ พกพาอาวุธปืน เข้าไปก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำ ไปจำนวน 3 เส้น รวมน้ำหนัก 3 บาท เหตุเกิดที่ร้านทอง ย่านชุมชนกลางตลาดป่าพะยอม หมู่ 1 ตำบลบ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เมื่อเย็นวานนี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2565 พ.ต.อ.สุริยา ปัญญามัง รอง ผบก ภ.จว.พัทลุง เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางในการติดตามตัวชายผู้ก่อเหตุ โดยสั่งกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ออกติดตามหาข่าว พร้อมไล่กล้องวงจรปิดทุกตัวที่มี และคาดว่าคนร้ายจะขับรถผ่าน พร้อมสั่งการให้มีการเข้าไปตรวจสอบตามร้านทองต่างๆ เผื่อคนร้ายจะนำทองไปขาย
รวมทั้งจะมีการตรวจสอบบริษัทรถจักรยานยนต์ด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีการจำหน่ายรถจักรยานยนต์รุ่นดังกล่าวไปจำนวนกี่คัน จำหน่ายในพื้นที่ไหนบ้าง
ส่วนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้เร่งจัดเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และลายนิ้วมือแฝง เพื่อรวบรวมใช้เป็นหลักฐานทางคดี
ทางด้าน พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม เผยว่า ในขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกเจ้าของร้านทอง และพยานในที่เกิดเหตุไปแล้ว 5 ราย ซึ่งการสอบปากคำในครั้งนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจยิ่ง แต่ไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ ส่วนคนร้ายจะเป็นคนในพื้นที่ อ.ป่าพะยอม เนื่องจากรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี หรือจะเป็นคนในพื้นที่ตำบลใกล้เคียงนั้น ยังไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการสืบสวน อย่างไรก็ตามในการติดตามและตรวจสอบภาพคนร้ายจากล้องวงจรปิดทั้งในและนอกสถานที่เกิดเหตุ อยู่ในขั้นที่น่าพอใจยิ่ง
...
พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ เผยอีกว่า คนร้ายในคดีดังกล่าวนี้น่าจะมีการวางแผนก่อนก่อเหตุร้ายมาอย่างดี และน่าจะศึกษา เรียนรู้ จากการไล่ล่าคนร้ายที่บุกเข้ามาลองทองตามร้านทองจากสื่อต่างๆ ที่นำไปสู่การจับกุม โดยเฉพาะการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่นำไปสู่การขยายผลไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายที่บุกเข้าไปชิงทองตามร้านทองต่างๆ
ส่วนในกรณีที่คนร้ายไม่ชิงทองในร้านแรกนั้น เนื่องจากคนขายเป็นผู้ชาย จึงต้องเข้าชิงทองในร้านทองดังกล่าวที่มีคนขายทองเป็นผู้หญิง มั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าวได้อย่างแน่นอน.