ตรวจร่างกายหนุ่มชาวไต้หวัน ไม่รู้ที่มาที่ไปใช้มีดจี้จะชิงรถ และทุบรถในปั๊มน้ำมันที่ อ.อุทัย อยุธยา พบมีสารเมทแอมเฟตามีน คาดเสพยาบ้าจนหลอน แต่ในตัวไม่มีเอกสาร สื่อสารกันไม่ได้ พูดได้ภาษาเดียว ต้องรอล่ามมาช่วยแปล 

กรณี ชายชาวไต้หวัน คลุ้มคลั่งใช้มีดจะทำร้ายคนที่มาเติมน้ำมันภายในปั๊มแห่งหนึ่ง ริมถนนสายเอเชีย ช่องทางคู่ขนาน หมู่ 1 ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าจังหวัดอ่างทอง เหตุเกิด เวลา 21.30 น. วันที่ 3 กันยายน โดยร.ต.อ.กานต์ ขวัญเจริญ รองสารวัตรปราบปราม สภ.อุทัย ได้รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งใช้มีดพับไล่ทำร้าย ทุบรถยนต์ของชาวบ้าน เหตุเกิดภายในปั๊มน้ำมัน จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ก่อนจะควบคุมตัวชายต่างชาติ สัญชาติไต้หวัน อายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งโวยวาย และยังได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยาจึงช่วยปฐมพยาบาลก่อนที่ตำรวจจะจับใส่กุญแจมือป้องกันไว้ก่อน เนื่องจากผู้ก่อเหตุ ควบคุมสติไม่ได้กลัวจะไม่ปลอดภัย

โดยก่อนหน้าจะถูกจับกุมตัว ผู้ก่อเหตุ ได้ไปใช้มีดพกแบบพับเดินไปเปิดประตูหลังรถยนต์เก๋งยี่ห้อ Honda สีขาวหมายเลขทะเบียน กน 5364 พระนครศรีอยุธยา ที่มีนายปสิวะณัฐ สิงห์แพร อายุ 31 ปี พร้อมแฟนสาว ขับมาจอดเติมน้ำมัน โดยผู้ก่อเหตุพยายามจะใช้มีดที่พกมาจี้ เพื่อจะนำรถขับออกไปแต่ผู้เสียหายรีบออกจากรถแล้วดึงกุญแจออกมาทัน เบื้องต้นทราบเพียงว่าเป็นชาวไต้หวัน แต่ยังพูดจาวกไปวนมาพูดไม่รู้เรื่องจึงได้นำตัวไปที่ สภ.อุทัย 

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 กันยายน 2565 ที่ สภ.อุทัย ตำรวจท่องเที่ยวได้เดินทางมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมตรวจสอบประวัติ โดยเบื้องต้นไม่พบเอกสารติดตัว ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ ชื่อ OU JUI HAO (โอว จุ้ย ห่าว) อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปตรวจสารเสพติด ที่โรงพยาบาลอุทัยพบในร่างกายมีสารเสพติด ประเภท เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จึงแจ้งข้อหาเบื้องต้น 1.พยายามชิงทรัพย์ 2.ทำให้เสียทรัพย์ 3.ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย นำเข้าคุมตัวอยู่ในห้องขังสภาพเริ่มนิ่ง เหม่อลอย พูดได้เพียงภาษาเดียว ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในการประสานล่ามแปลภาษา เข้ามาในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดว่ามาจากไหน เข้ามาได้อย่างไร มีเอกสารหรือไม่

...

ด้านผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้ามาเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันแล้วตั้งแต่เมื่อคืน โดยพบว่ารถมีร่องรอยเสียหาย และยังอยู่ในอาการตกใจ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวเอง ซึ่งตำรวจจะเชิญมาสอบปากคำเพิ่มเติม ต่อไป.