ตำรวจภูธรภาค 5 เร่งตามตัวตัว "เป้" P miner" หลังมีผู้เสียหายที่ไปร่วมลงทุนคริปโตนับพันล้านบาท คาดว่าจะได้ตัว เร็วๆ นี้ ขณะที่ DSI เตรียมพิจารณา เป็นคดีพิเศษ ก่อนเข้าสู่กระบวนการสืบสวนต่อไป
กรณีที่มีผู้เสียหายได้รวบรวมหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่า ถูกนายกิติกร อินต๊ะ หรือ “เป้ Pminer” ซีอีโอ บริษัท P miner Cryptocurrency ชักชวนลงทุนคริปโต ซึ่งคาดว่ามีความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) สนธิกำลังเข้าอายัดทรัพย์เจ้าของ ”P miner Cryptocurrency” ได้ข้อกลางเป็นรถหรูจำนวน 5 คัน คือ ลัมโบร์กินี 2 คัน BMW เฟอร์รารี่ เบนท์ลีย์ ยี่ห้อละ 1 คัน นอกจากนี้ยังพบนาฬิกาหรู โฉนดที่ดิน และได้อายัดบัญชีทั้งหมดเอาไว้แล้ว ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

...
เมื่อวันนี้ 2 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ล่าสุดเรืออากาศตรี กิตติคม คงสมโภชน์ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้ส่งเรื่องทั้งหมดเข้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาแล้วซึ่งคาดว่า เข้าเกณฑ์รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีมูลพอเชื่อได้ว่าเป็นการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน ซึ่งหากกรมรับเป็นคดีพิเศษ ก็จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมในการสืบสวนสอบสวน เหมือนคดีอื่นๆ ที่จะต้องเรียกผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูล เพื่อดำเนินการสืบสวนเพิ่มเติม ส่วนจะมีผู้กระทำความผิดกี่คน ต้องดูที่เส้นทางการเงิน ว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้อื่นอีกหรือไม่ ล่าสุด มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนที่ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 DSI และลงในระบบออนไลน์ มีผู้เสียหายแล้วกว่า 500 คน และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 700 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ได้มีการประสานงานกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่แล้ว ในการเฝ้าระวังและสืบสวน จับกุมร่วมกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้เข้าทำการตรวจค้น สถานที่ประกอบการของ บริษัท P Miner ของกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ ก็มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคณะนี้ อยู่ระหว่างการขยายผลติดตามและออกหมายจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ต่อไป.