ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น สืบภาค 4 และกองปราบ ระดมกำลังไล่ล่า ไอ้นุ อดีตสายตำรวจ มือยิง ร.ต.ต.สาหัส พบเบาะแสล่าสุดหลบหนีขึ้นเขาภูโน ขอน้ำชาวบ้านกิน สภาพอิดโรย ขณะที่ผู้เป็นพ่อคาใจ ลูกชายถูกยัดข้อหายาเสพติด โดนนายดาบคนสนิท จัดฉาก วางงาน หลังมีเรื่องผิดใจกัน
ความคืบหน้าคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระนวนบาดเจ็บสาหัสแล้วหลบหนี ล่าสุดชาวบ้านขึ้นไปหาของป่า เจอผู้ต้องหามาขอน้ำดื่ม ก่อนที่จะเดินขึ้นบนเขา ขณะที่พ่อยังแคลงใจเชื่อมีดาบตำรวจคนสนิทลูกชายจัดฉากให้ลูกไปอยู่ที่บ้านแล้วให้ตำรวจมายิงลูก
ความคืบหน้าเหตุการณ์ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระนวน ดวลปืนกับ นายสกล ภูโอบ หรือนุ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 ม.4 บ้านโคกกลาง ต.ห้วยยาง อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ขณะเรียกตรวจค้น และกระสุนที่นายนุยิงออกมาหลายนัดถูกเข้าที่ท้องของ ร.ต.ต.นเรศ นาคศรี อายุ 54 ปี รอง สว.(ป.) ปฏิบัติหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กระนวน บาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะออกหมายจับนายนุ ข้อหา พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน ซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้อาวุธ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุสมควรเหตุ
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางตำรวจ สภ.กระนวน ยังอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ โดยมีกำลังชุดสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น สืบสวนภาค 4 และตำรวจกองปราบปราม ได้เข้าร่วมในการติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น นายมนตรี พ่อของนายสกล ภูโอบ หรือ นายนุ ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ได้เดินทางออกมาที่สวนยางพาราจุดเกิดเหตุ ที่บ้านโคกล่าม หมู่ 5 ตำบลห้วยยาง อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น เพื่อออกตามหาเบาะแสของลูก ซึ่งหลังจากก่อเหตุก็ยังไม่เจอตัวลูกชาย
...

จากนั้นได้เดินทางไปที่วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวง ที่อยู่ห่างจากสวนยางพาราประมาณ 2 กิโลเมตร โดยได้สอบถามข้อมูลกับนายบุญถักษ์ เหลาดวงดี พนักงานพิทักษ์ป่า วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวง ทราบว่า วันเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังออกลาดตระเวนได้ยินเสียงคล้ายกับเสียงปืน จนกระทั่งมาทราบว่ามีเหตุยิงกันขึ้น หลังจากนั้นได้มีการลาดตระเวนเข้มงวดขึ้น แต่ก็ไม่พบร่องรอยของผู้ต้องหาจะหลบหนีมาทางนี้ จนกระทั่งมีชาวบ้านที่ออกเก็บเห็ดพบนายนุ ซ่อนตัวบนเขาภูโน มาบอกกับเจ้าหน้าที่ให้ทราบ โดยผู้ต้องหาได้มาขอน้ำจากชาวบ้านที่ไปเก็บเห็ดมาดื่ม สภาพตอนที่พบนั้น สีหน้าอิดโรย ก่อนที่จะเดินขึ้นไปทางยอดภู ที่เป็นรอยต่อกับจังหวัดกาฬสินธุ์

หลังจากที่พ่อของนายนุทราบข้อมูลก็เดินทางไปหาชาวบ้านที่พบลูกชาย คือนางสมมาตร เงินขาว อายุ 70 ปี เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.00-09.00 น. ของเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 65 ขณะที่ไปเก็บเห็ดบนเขาภูโน ระหว่างเดินเก็บเห็ดพบชายรายหนึ่งสวมโม่งกำลังนั่งเผาปืน .22 ติดลำกล้อง ตอนนั้นก็ตกใจแต่ก็อยากรู้ว่า กำลังทำอะไร จึงทักถามมาทำอะไรในป่า แต่อีกฝ่ายตอบสั้นๆ ว่า มาเก็บเห็ด จากนั้นก็รีบขี่รถจักรยานยนต์หนีไป
“ส่วนตัวตอนนั้นไม่คิดว่าเป็นนายนุ แต่น้องชายที่ขึ้นเขาไปหาเห็ดด้วยกันบอกว่าเป็นนายนุ ที่ตำรวจกำลังล่าตัว เพราะจำหน้าได้จากข่าวที่เผยแพร่ออกมา ทำให้ยังไม่กล้าที่จะขึ้นไปหาเห็ดบนภูโนอีก”
ซึ่งนายมนตรีหลังจากได้พูดคุยกับชาวบ้านที่พบเห็นตัวลูกชายเสร็จก็ได้เดินทางกลับ ซึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่าตอนนี้ทำได้แค่รอลูกติดต่อมา อยากเจอตัวลูกชายโดยเร็วเป็นห่วงลูก
“ส่วนตัวข้องใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นการวางแผนของดาบตำรวจคนสนิทลูกชายคนหนึ่ง อาจจัดฉาก เรียกลูกชายให้ไปยิงกับตำรวจหรือไม่ เพราะจุดที่ตำรวจมาพบลูกนั้น อยู่ที่หลังบ้านของดาบตำรวจคนหนึ่ง เพราะอาจมีเรื่องผิดใจกันขึ้น และลูกชายเคยถูกจับยาเสพติด แต่ก็ไม่ใช่ยาของลูกชายและต่อสู้ในชั้นศาล และศาลยกฟ้องทั้ง 3 ศาล ใช้เวลา 3 ปีก็กลับมาที่บ้านและไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ตรงนี้อาจจะมีส่วนก็เป็นไปได้ และยังคาใจว่าใครเป็นฝ่ายยิงก่อน เพราะตนเองรู้จักนิสัยของลูกชายเป็นอย่างดี พร้อมกับทางตำรวจมีการกวาดล้างยาเสพติดที่ตำบลแห่งนี้ เพราะมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างหนัก เนื่องจากเป็นรอยต่อกับอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ทำให้ขบวนการค้ายาเพสติด จะใช้เป็นจุดพักยาและกระจายยาเสพติดไปตามพื้นที่ต่างๆ”

...
ในเรื่องดังกล่าวนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลของผู้ต้องหารายนี้จากแหล่งข่าว ซึ่งเป็นตำรวจชุดสืบสวนที่มาร่วมปฏิบัติการไล่ล่าตัวนายนุครั้งนี้ ทราบว่า ในเรื่องที่ครอบครัวของนายนุยืนยันว่าลูกชายถูกยัดเยียดข้อหามียาเสพติดนั้น เนื่องจากขณะเข้าจับกุมนายนุนั้น พบยาบ้าซึ่งฝังดินเอาไว้ แต่นายนุปฏิเสธว่าไม่ใช่ยาบ้าตัวเองมาตลอด และยาบ้าก็ไม่ได้อยู่ในตัวจึงไม่มีหลักฐานเอาผิดนายนุแบบชี้ชัด แต่จากการตรวจค้นรถและสืบสวนข้อมูลในพื้นที่ พบอุปกรณ์การเสพยาบ้าตกอยู่เต็มในรถ และสายข่าวในพื้นที่ก็ยืนยันว่านายนุนั้นมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมานาน และมีนิสัยชอบเล่นปืน สะสมปืน ซึ่งเมื่อเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เชื่อได้ว่าต้องมีสิ่งของผิดกฎหมายจึงยิงเข้าใส่ตำรวจเพื่อจะหลบหนี เพราะกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดนั้น จะมีแนวคิดเหมือนๆ กันคือ ทำทุกทางเพื่อไม่ให้ถูกตำรวจจับ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. กับตำรวจท่องเที่ยวเข้าจับกุมผู้ต้องหามีหมายจับคดียาเสพติดในเมืองขอนแก่นที่ผ่านมา
และจุดที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระนวน พบนายนุนั้นอยู่ที่บริเวณหลังบ้านของดาบตำรวจ แต่ปัจจุบันเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่ และจะมีป่าอยู่หลังบ้าน จุดนั้นเองเป็นจุดมั่วสุมเสพยาเสพติดของวัยรุ่นในพื้นที่ ซึ่งตำรวจเองได้มีการออกตรวจกวาดล้างเป็นประจำกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น