ใต้เดือด ซุ่มยิงชาวบ้านดับ 2 ศพ ลวงทหารเข้าตรวจ กดระเบิดซ้ำหวังสังหาร (คลิป)

ใต้ยังเดือด คนร้ายก่อเหตุพร้อมกัน 2 จุด ที่ อ.สุไหงปาดี ลอบยิงชาวบ้านที่เข้าหาหมูป่า โดยจ่อยิงที่หัวตาย 2 ศพ หนีรอดได้ 3 ขณะเดียวกันลอบวางระเบิดหวังสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.ทพ.4811 ขณะเข้าไปตรวจสอบเหตุฆ่า 2 ศพ คาดเป็นฝีมือกองกำลังกลุ่มนายตอเย็บ เมทาลง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ส.ค. 65 พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผกก.สภ.สุไหงปาดี พ.อ.ภาคิน เกื้อกูล ผบ.ฉก.กรม ทพ.48 ร.ต.อ.สุริยัน จันทร์น้ำใส รอง สว.สอบสวน สภ.สุไหงปาดี เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ 2 จุด

จุดที่ 1 เป็นเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงคนหาหมูป่าเสียชีวิต 2 ราย คือ นายสิทธิพล ฮกฮิ้น อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นอาสาสมัครรักษาหมู่บ้านโคกโก และ นายแพน ทองรมย์ อายุ 40 ปี อดีตอาสาสมัครทหารพราน เหตุเกิดทางเดินในร่องสวนยางพาราบ้านบาตูบือแน ม.5 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี เมื่อกลางดึก (3 ส.ค.)

จุดที่ 2 ซึ่งห่างจากจุดแรก ประมาณ 2 กม. เป็นเหตุคนร้ายลอบจุดชนวนระเบิดดักสังหาร จนท.ทหารพราน ร้อย 4811 ริมถนนในหมู่บ้านลาแลลูรัส ม.7 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานนั่งโดยสารรถยนต์หุ้มเกราะ ไปปิดกั้นเส้นทางผ่านไปยังจุดเกิดเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงคนหาหมูป่าเสียชีวิต 2 คน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุในช่วงเช้า แต่โชคดีเจ้าหน้าที่ทหารพรานนั่งรถยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุไปก่อนหน้าแล้ว ประมาณ 15 เมตร จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.30 น.

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุแรก ซึ่งยังมีศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ในสวนยางพารา โดยศพของนายสิทธิพล และนายแพน มีร่องรอยถูกกระสุนปืน เอ็ม-16 จ่อยิงที่ศีรษะ คนละ 1 นัด และพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 10 ปลอก และมีรถ จยย.ล้ม 2 คัน ซึ่งแต่ละคันห่างจากศพผู้เสียชีวิตประมาณ 3 เมตร คันแรกเป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาวชมพู ทะเบียน ขฉค 106 นราธิวาส คันที่ 2 เป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงินเทา ทะเบียน กษร 696 นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี โดยศพของนายสิทธิพล ทางญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดรัตนานุภาพ อ.สุไหงปาดี ส่วนศพของนายแพน ทางญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ได้ร่วมเดินทางมากับพวกรวม 5 คน ใช้รถ จยย. 4 คัน เพื่อเดินทางมาหาหมูป่า โดย 3 คนแรกได้แยกย้ายไปหาหมูป่าคนละจุดกับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน กระทั่ง 3 คนแรกสามารถจับหมูป่าได้แล้ว ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ทราบจึงได้แยกย้ายเพื่อเดินทางกลับไปยังจุดนัดพบ และในระหว่างที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เดินลงจากป่าเพื่อมาขี่รถ จยย.กลับนั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซึ่งคาดว่าน่าจะรอดักซุ่มอยู่ เมื่อพบผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน คนร้ายได้บุกชาร์จแล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะคนละ 1 นัด จนเสียชีวิต จากนั้นเพื่อนอีก 3 คน ได้ยินเสียงปืนผิดปกติ จึงได้โทรศัพท์มาหาผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน แต่ไม่มีผู้ใดรับสาย 1 ใน 3 จึงได้ตะโกนถาม คนร้ายได้ยินเสียงตะโกนจึงใช้อาวุธปืน เอ็ม-16 สุ่มยิงไปยังบุคคลทั้ง 3 และก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีได้หยิบอาวุธปืนพก ขนาด .22 และอาวุธปืนลูกซอง ของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ 2 พบที่บริเวณกลางถนนลาดยางมะตอย มีหลุมระเบิด กว้าง 1.50 เมตร ลึก 1 เมตร และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 20 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า หลังจากที่ พ.อ.ภาคิน เกื้อกูล ผบ.ฉก.กรม ทพ.48 ทราบข่าวกรณีมีเหตุยิงชาวบ้านเสียชีวิต 2 คน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 4811 เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งปิดกั้นเส้นทางเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านที่ใช้ถนนบนเส้นทางดังกล่าว และในระหว่างเดินทางถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิด ที่ลอบเจาะผิวถนนแล้วนำระเบิดไปซุกไว้บริเวณกลางถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่โชคดีรถยนต์หุ้มเกราะรีวาของเจ้าหน้าที่ขับผ่านไปก่อนจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 15 เมตร จึงทำให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัยและรถยนต์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

ด้านแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าเป็นฝีมือของสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ กลุ่มนายตอเย็บ เมทาลง ซึ่งเคยก่อเหตุบุกยิงพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ มรณภาพพร้อมพระลูกวัด รวม 2 รูป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ม.ค.62 ที่ผ่านมา.