ตำรวจไซเบอร์นำหมายศาลเข้าตรวจค้นออฟฟิศ ฟาร์มเห็ดทิพย์ Turtle Farm ลวงเหยื่อลงทุนเสียหายกว่า 1.2 พันล้าน ที่สกลนคร รวบเลขาฯ ซีอีโอ 1 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ขณะที่ผู้ต้องหา 3 ใน 7 ไม่อยู่ไทยแล้ว

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2565 พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก.สอท.3 จนท.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และชุดสืบสวน สภ.เมืองสกลนคร นำหมายศาล จ.สกลนคร เข้าตรวจสอบ บริษัทลงทุนฟาร์มเห็ดแห่งหนึ่งที่ ถนนสกลทวาปี ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ในกรณีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์แจ้งความลงทุนทำฟาร์มเห็ดและเกษตรอื่นๆโดยให้ผลตอบแทนสูง 18-30% ต่อมามีการผิดสัญญา ไม่จ่ายเงินปันผลตามสัญญาและติดต่อกับบริษัทไม่ได้จนมีผู้เสียหายเกือบ 2 พันราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,200 ล้านบาท ทั้งในตัวจังหวัดสกลนครและจังหวัดต่างๆ และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ กองบังคับการกองปราบปราม (กองปราบ) และ จ.สกลนคร รวมถึงตามต่างจังหวัด

โดย จนท.ได้อ่านหมายศาลให้กับ จนท.รปภ.ด้านหน้าบริษัทซึ่งประจำการเพียง 1 นาย จากนั้นจึงนำ จนท.เข้าไปยังอาคารที่ทำการบริษัทซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ซึ่งวันนี้ จนท.เข้าตรวจสอบภายในเพื่อหาหลักฐานต่างๆ พบเอกสาร อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ยังคงมีอยู่ในห้องทำงานของผู้บริหารและพนักงาน จึงต้องเก็บหลักฐานรวบรวมทั้งหมด โดยนำคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานในการประกอบการพิจารณาคดี โดยเฉพาะเส้นทางการเงินต่างๆ

...

จากนั้น จนท.กำลังส่วนหนึ่งนำกำลังไปยังฟาร์มเห็ดซึ่งตั้งอยู่ถนนเส้นเดียวกันและอยู่ห่างกันไม่มากนัก พบเพียง จนท.รปภ. 1 นาย ที่ทำงานอยู่ และโรงเห็ดประมาณ 120 โรงเรือน ซึ่งพบว่าโรงเห็ดหลายโรงยังคงมีการคล้องกุญแจไว้ และบางโรงเรือนพบด้านในมีหัวเชื้อก้อนเห็ดที่เสียแล้วและมีกลิ่นเหม็น มีตัวอย่างฟาร์มผึ้ง กระท่อม บางส่วน จนท.จึงตรวจสอบถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานและสอบปากคำ จนท.รักษาความปลอดภัยด้วย

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจาก หจก.สถานีหลักสี่ประมาณ 4 กิโลเมตร หลังรับแจ้งข้อมูลจากสื่อโซเชียลว่าเป็นบ้านของ นางสาวนันทวดี นันทสิริ ซีอีโอของ หจก.สถานีหลักสี่ ที่เพิ่งทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นบ้าน 2 ชั้นขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ลักษณะตรงตามข้อมูลที่ได้รับมา แต่ไม่มีคนอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกข้อมูลไว้เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป

โดยมีรายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.ได้นำหมายจับเข้าควบคุมตัว น.ส.ประภากร ในพื้นที่ จ.สกลนคร ตามหมายจับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามพยานหลักฐานทำหน้าที่เป็นเลขานุการของ น.ส.นันทวดี หรือ แพรไหม ซีอีโอ โดยมีหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมดรวม 7 ราย ทำให้เหลือผู้ต้องหาอีก 6 ราย โดย 3 ใน 7 ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย.