ผู้การอุบลฯ เผย แจ้งข้อหาแล้ว ส.ต.อ.นอกเครื่องแบบ ยิงพี่ชายเอเย่นต์ยาบ้าเสียชีวิต เรียกรายงานตัว-ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง แต่ยังให้ปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล
จากกรณี ส.ต.อ.คมกฤษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบของ สภ.นาจะหลวย ภ.จว.อุบลราชธานี ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายสังวาลย์ ระเม็ก อายุ 42 ปี ชาวบ้านโนนเจริญ หมู่ 7 ต.บ้านตูม อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต ขณะเข้าจับกุมตัว นายอรุณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นน้องชายคนละพ่อของผู้ตาย ที่มีพฤติกรรมเสพและขายยาบ้า บริเวณกลางทุ่งนาด้านทิศเหนือของหมู่บ้านโนนเจริญ โดยหลังเกิดเหตุนายอรุณหลบหนีไปได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า จากการรายงานของ พ.ต.อ.วีระพันธ์ นาคสุข ผกก.สภ.นาจะหลวย ว่ากรณีดังกล่าวได้แบ่งออกเป็น 3 คดี คือพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฝั่งนายสังวาลย์และน้องชาย คือ 1.ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 1 ยาบ้า 2.ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ 3.ร่วมกันต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
ส่วน ส.ต.อ.คมกฤษณ์ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยอ้างเหตุป้องกันตัวขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยให้เข้ารายงานตนต้องคดีอาญากับผู้บังคับบัญชาภายใน 3 วัน พร้อมทั้งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง แต่ยังคงให้ปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิมจนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล เพราะการต้องคดีดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ คดีที่ 3 เป็นคดีชันสูตร
อย่างไรก็ตาม การที่ญาติติดใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ว่ากระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น ต้องรอการสอบสวนและให้ศาลท่านเป็นผู้พิจารณาว่าเกิดกว่าเหตุหรือไม่ เบื้องต้นได้สั่งการให้ทาง พ.ต.อ.วีระพันธ์ นาคสุข ผกก.สภ.นาจะหลวย เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจดูแลตามหลักมนุษยธรรมแล้ว แต่กระบวนการตามกฎหมายก็ต้องเดินหน้าให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง.
...