2 สามี-ภรรยา ร้อง "สายไหมต้องรอด" ถูกแก๊งซุ้มพนันหมุนวงล้อรุมกระทืบต่อหน้าหลานชายวัย 7 ขวบ หลังออกอุบายชักชวนเสี่ยงโชค สูญเงินนับหมื่น แฉ ทำงานกันเป็นทีม เป็นขบวนการ มีหน้าม้าคอยหลอกล่อ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2565 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พร้อมด้วย นายบี (นามสมมติ) อายุ 25 ปี สามี เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยติดตามความคืบหน้าของคดี หลังถูกแก๊งพนันหมุนวงล้อในงานแสดงสินค้า รุมทำร้ายต่อหน้าหลานชายอายุ 7 ขวบ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ตาบวมช้ำ หัวแตก คิ้วแตก มีบาดแผลถลอกตามร่างกายกว่า 10 แห่ง สูญเงินอีก 28,000 บาท

นายบี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 65 เวลา 21.00 น. ตนพร้อมแฟนตั้งใจจะพาหลานชายวัย 7 ขวบไปเดินเที่ยวงานแสดงสินค้าในซอยหทัยราษฎร์ 39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. ระหว่างเดินเที่ยวงานได้เดินผ่านซุ้มพนันหมุนวงล้อ สังเกตเห็นมีคนยืนล้อมวงเล่นหมุนวงล้ออยู่จำนวนมาก จู่ๆ มีกลุ่มคนที่เล่นอยู่ 2-3 คน เดินมาดึงมือตนเข้าไปยืนดูการเล่น พร้อมกับพูดชักชวนให้เล่น แต่ตนปฏิเสธ และกำลังจะเดินออก มีหญิงคนหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่าเป็นหน้าม้าหรือไม่ พูดทำนองว่าเล่นได้เงินมาเยอะ พร้อมยื่นเงินให้ 100 บาท เพื่อนำไปเสี่ยงโชค ตนเลยจะเอาเงินที่ได้มาวางเสี่ยงโชค แต่เจ้าของร้านบอกต้องวางครั้งละ 200 บาท ตนจึงเพิ่มเงินลงไปอีก 100 บาท แต่ไม่ถูกรางวัล จากนั้นผู้หญิงคนที่ให้เงินมาก็บอกให้ตนช่วยหมุนให้หน่อย โดยจับมือตนไปหมุนอีก แต่ไม่ได้ ทางผู้หญิงได้มายืมเงินตน แต่ไม่มีเงินสด และให้โอนเงินให้ ตนเห็นว่ายืนอยู่ด้วยกันเลยโอนไป ทางร้านมีการชักชวนอีกหลายครั้ง โดยเพิ่มเงินรางวัลเป็น 90,000 บาท เพื่อสร้างความน่าสนใจ แต่ต้องวางเงินในการหมุน 20,000 บาท ครั้งแรกปรากฏว่าได้รางวัล แต่ทางร้านถามว่าได้วางเงินไว้หรือไม่ ตนบอกไม่ได้วางเพราะไม่มีเงินสด เขาบอกให้ไปหาเงินมาเพื่อมาแลกรางวัล 90,000 ไป เมื่อตนหามาได้ได้ส่งเงิน 20,000 บาทไป ตอนนั้นเจ้าของร้านไม่ได้ส่งเงินรางวัลมาให้ กลับให้ตนหมุนอีก 1 รอบ โดยบอกให้รวมกับผู้หญิงคนที่ให้เงินตน ตอนนั้นงง ว่าทำไมจะต้องรวมกันสุดท้ายได้รางวัลอีก 90,000 บาท แต่ทางร้านบอกเราไม่ได้วางเงิน เงินที่ให้มาเป็นค่าลงครั้งก่อน

...

ตนเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามเข้าไปอธิบายว่า ตนตั้งใจพาหลานมาเที่ยวงาน ไม่ได้ต้องการมาเล่นการพนัน และมีปากเสียงกัน สุดท้ายแฟนสาวได้เอ่ยถามออกไปว่า "ขอถามจริงๆ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้คือหน้าม้าที่คอยหลอกคนใช่หรือไม่" หลังสิ้นเสียงของตน ได้มีเสียงคนตะโกน คาดว่าจะเป็นเจ้าของโต๊ะพนันตะโกนด่าทอตนเสียงดังลั่นด้วยคำหยาบคาย หลานตนตกใจมากถึงกับยืนตัวสั่นและร้องไห้ จู่ๆ มีเสียงพูดขึ้นว่า "พวกมึงรู้มากนักใช่ไหม รุมมันเลย" จากนั้นทั้งผู้ชายและ สาวประเภท 2 ประมาณ 7-8 คน ได้เข้ามารุมทำร้ายเราทั้งสองคน จนลงไปนอนกองกับพื้นได้รับบาดเจ็บ ต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิต จากนั้นได้มีคนที่มาเดินเที่ยวงานเห็นว่าเข้ามาช่วยห้าม

หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.มารุต ปัณดิษฐโต รอง สว.(สอบสวน) สน.นิมิตรใหม่ ทันที แต่คดีไม่มีความคืบหน้า หลังเกิดเหตุผ่านไป 5 วัน พนักงานสอบสวนก็ยังไม่มีการพาสอบสวน หรือชี้จุดที่เกิดเหตุ

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม เจ้าของ เพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนกับแก๊งพนันหมุนวงล้อตามงานแสดงสินค้าที่หลอกลวงประชาชนให้เข้ามาเล่น โดยมีลักษณะทำงานกันเป็นทีมเป็นขบวนการ มีหน้าม้าคอยหลอกล่อ พอเหยื่อหลงกลเข้ามาเล่นก็จะถูกกลโกง ต้องเสียเงินให้กับแก๊งนี้จนหมดตัวเกือบทุกราย โดยก่อนหน้านี้เคยมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อต้องสูญเงินกว่า 300,000 บาทมาแล้ว แต่ครั้งนี้เหิมเกริมมากถึงขั้นรุมทำร้ายเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บต่อหน้าประชาชนที่มาเดินเที่ยวชมงาน หลังเกิดเหตุไม่มีตำรวจท้องที่มาดูที่เกิดเหตุเลยจนงานจะเลิกแล้ว จึงต้องขอความอนุเคราะห์ท่าน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ช่วยปราบปรามแก๊งพนันกลุ่มนี้อย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องมาถูกทำร้าย หรือโดนหลอกซ้ำอีก

...

ต่อมา นายเอกภพ ได้พาผู้เสียหายลงพื้นที่มาดูจุดเกิดเหตุที่งานในซอยหทัยราษฎร์ 39 พบเป็นงานแสดงสินค้า มีร้านปาลูกโป่ง ยิงปืน ปาเป้า เหมือนงานวัดทั่วไป ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่กลางงาน มีเพียงแผงเหล็กสีแดงวางไว้เท่านั้น ทราบว่าร้านดังกล่าวจะมาในช่วงเย็น งานดังกล่าวมีถึงวันที่ 7 ส.ค.นี้.