พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 ยอมรับมืดแปดด้าน คดีโหดฆ่าโบกปูนฝังดิน 2 ศพที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ยังไม่รู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เร่งประสานตม.-ตำรวจท่องเที่ยว ช่วยหาเบาะแส ล่าสุด ผบ.ตร.สั่งกองปราบฯ ลงมาร่วมคลี่คลายคดีด้วย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม 2565 ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา หัวหน้าทีมรับผิดชอบในการคลี่คลายคดีการสังหารโหด 2 ศพ และทีมชุดสืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา ร่วมหารือในการติดตามความคืบหน้าคดีฆาตกรรมหญิงสาวชาวไทย และชายชาวต่างชาติ ซึ่งถูกยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิต ก่อนฆาตกรจะทำการขุดหลุมโบกปูนฝังดินทับกันอยู่ภายในป่าชุมชนตำบลทุ่งอรุณ ท้องที่บ้านปอพราน หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา โดยได้มีการพบศพมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยมีการรายงานผลการการสืบสวน พร้อมกำชับสั่งการจัดชุมประชาสัมพันธ์ให้ผู้แจ้งเบาะแสได้ช่วยแจ้งเบาะแสให้กับตำรวจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปะติดปะต่อคลี่คลายคดี เพื่อให้สังคมสาธารณชนได้รับทราบ ทั้งนี้ในพื้นที่มีชุดสืบสวนคลี่คลายคดีทุกส่วนงาน ทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน, เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน, ตำรวจท่องเที่ยว
พลตำรวจโทสมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า คดีนี้ทาง ผบ.ตร.ให้ความสำคัญมาก ในส่วนคดีตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากเท่าไร ตำรวจกำลังพยายามติดตามว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ตอนนี้เรายังไม่รู้ ฉะนั้นการตั้งสมมติฐานต่างๆ ตำรวจก็ตั้งเอาไว้ แต่เรายังไม่สามารถติดตามคนร้ายได้เท่าที่ควร ซึ่งตำรวจต้องรู้สาเหตุการเสียชีวิตก่อนว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร แล้วถึงจะตามต่อได้ ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่าตำรวจเรายังไม่รู้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าผู้เสียชีวิต 2 ศพเป็นใคร ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์ก็ยังไม่ออกมา เรากำลังส่งทุกหน่วยตรวจสอบเชิงลึกด้วย และตำรวจมีการประสานไปทุกที่ก็รอคำตอบในการตรวจสอบอยู่
...
ส่วนคดีนี้ถือว่ายากแค่ไหนก็ยากพอสมควร เพราะเราเริ่มไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ฉะนั้นเราก็จะไม่รู้สาเหตุการเสียชีวิตว่าเขาทะเลาะเบาะแว้ง มีความสัมพันธ์กับใคร ขัดแย้งอะไรกับใคร เราจะได้สืบต่อได้ ตอนนี้เราไม่รู้ ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ มีรอยกระสุนน่าจะถูกยิงในที่เกิดเหตุนั้น ตำรวจก็ตั้งสมมติฐานไว้ เพราะตำรวจเก็บพยานหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าน่าจะเกิดการยิงกันในที่เกิดเหตุ ส่วนเสียงปืนถ้ายิงในที่เกิดเหตุ ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงต้องได้ยินเสียงปืนตรงนี้ น่าจะใช้ปืนเก็บเสียงหรือไม่นั้น ตรงนี้ก็ตอบไม่ได้ เพราะจากการสอบถามชาวบ้าน ไม่มีใครได้ยินเสียงปืน ก็ตอบไม่ได้ หรือชาวบ้านอาจจะหลับหมด ตอนกลางคืน ตี 2 ตี 3 หรืออาจจะใช้ปืนเก็บเสียง ก็อาจจะเป็นไปได้ ส่วนการสอบปากคำ ตำรวจสอบไปได้มากพอสมควรแล้วหลาย 10 ปาก เราสอบหมดไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาในรอบ 1 เดือนเราสอบหมด
พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวว่า คดีนี้ ผบ.ตร.กำชับในเรื่องการติดตามตำหนิรูปพรรณของผู้เสียชีวิต ได้มีการสั่งการหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ ตม. ตำรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ที่สามารถที่จะนำสืบไปสู่การหาว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร โดยตอนนี้ทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทางตำรวจกองปราม ลงมาร่วมคลี่คลายคดีด้วย ส่วนเรื่องสำคัญคือเบาะแสของพี่น้องประชาชน มีความสำคัญและเป็นประโยชน์มาก ถ้าญาติพี่น้องใครหาย หรือมีตำหนิรูปพรรณของผู้เสียชีวิต ถ้ารู้ว่าเป็นญาติพี่น้องใคร ขอให้รีบมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคดีมันจะได้เริ่มอย่างจริงจัง ทั้งนี้ตำรวจเรายังมั่นใจว่าเราจะสามารถปิดคดีนี้ได้ แต่คงต้องใช้เวลาบ้าง เพราะถ้าเรารู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ยังไงก็ได้แน่นอนแล้ว ก็นำสู่เรื่องของการติดตามคนเหล่านี้