ตร.สอบปากคำ เอก สวนผัก หลังใช้ปืนข่มขู่สาวพีอาร์สถานบันเทิง พร้อมนำปืนของกลางไปตรวจสอบ หากเป็นของจริงจะแจ้งข้อหาเพิ่ม ขณะที่จะตามหาเพื่อนนายเอกที่อ้างเป็น ตร.มาสอบด้วย ก่อนจะปล่อยตัวชั่วคราว

จากกรณี น.ส.แพร (นามสมมติ) อายุ 21 ปี น.ส.ปุ้ย (นามสมมติ) อายุ 22 ปี และ น.ส.เฟย์ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี สามสาวพีอาร์สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านพุทธมณฑลสาย 2 แจ้งความดำเนินคดีขาใหญ่นายทุนปล่อยเงินกู้รายใหญ่ย่านตลิ่งชัน ข่มขู่คุกคามหลังจากไปรับงานเอนเตอร์เทนชงเหล้าที่บ้านแล้วไม่พอใจที่ไม่เอนเตอร์เทนลูกชายวัย 17 ปี แต่งเครื่องแบบนักเรียนร่วมอยู่ในงานเลี้ยงสังสรรค์ ถูกตามราวีถึงที่ทำงานและเอาปืนจ่อ ทั้งที่กราบขอโทษและคืนเงินค่าจ้างให้ แต่ฝ่ายคู่กรณีก็ไม่ยอมเลิกรา

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ส.ค. 65 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้รับรายงานความคืบหน้าคดี พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ตลิ่งชัน แจ้งว่า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 31 ส.ค. 65 นายเอกพล เอี่ยมวิสูตร หรือ เอก สวนผัก อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ซอยสวนผัก 32 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม. ผู้ถูกกล่าวหา เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อรับทราบข้อหาข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ตามคดีอาญา สน.ตลิ่งชัน ที่ 833/2565 พร้อมด้วยของกลางกระสุนปืนยางขนาด 9 มม. Rubber Bullet จำนวน 28 นัด ปืน BB GUN พกสั้น 1 กระบอก กล่องกระสุนปืนลูกแบล็งค์ 1 กล่อง (ไม่พบลูกกระสุนภายในกล่อง) และกระสุนปืน BB Gun จำนวน 1 กล่อง จากการตรวจค้นบ้านพักในซอยสวนผัก 19 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม.

สืบเนื่องจากสาวพีอาร์แจ้งความว่า ถูกนายเอกพลชักปืนขู่คุกคามเพราะไม่เอนเตอร์เทนลูกวัย 17 ในงานเลี้ยงวันเกิด พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ สอบสวนผู้เสียหายได้ความว่า วันเกิดเหตุรับจ้างงานเอนเตอร์เทนชงเหล้างานวันเกิดที่บ้านผู้ต้องหา ตกลงค่าจ้างให้คนละ 3,000 บาท ทำงานตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 27 ก.ค. ถึงเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 28 ก.ค. ตอนเวลา 21.30 น. ผู้ต้องหาได้เรียกผู้เสียหายไปนั่งกับลูกชาย พอไปนั่งได้สักพักผู้เสียหายอีกคนลุกไปชงเหล้าอีกกลุ่มหนึ่ง พอกลับมาที่โต๊ะลูกชายและภรรยาผู้ต้องหาบอกว่าไม่ต้องดูแลแล้ว มีคนชงให้แล้ว ผู้ต้องหาเดินมาว่าทำไมไม่ดูแลลูกเขา ผู้เสียหายอธิบายแต่ยอมไม่ฟัง โวยวายโมโหหาว่าดูแลไม่ดี ผู้ต้องหาก็ถือกล่องลูกปืนมีลูกปืนเต็มกล่องมาวางบนโต๊ะตรงกลางที่โต๊ะศาลาริมน้ำ ผู้เสียหายกำลังชงเหล้ากันอยู่ฝ่ายชายบอกว่า "มึงไปเอาปืนมาซิ" ภรรยาของผู้ต้องหาบอกว่า “ไม่มีปืน เก็บไปหมดแล้ว” ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย   

...

ส่วนกรณีวันที่ 28 ก.ค. เวลา 22.00 น. ผู้เสียหาย 2 ใน 3 รับงานเอนเตอร์เทนที่บ้านลูกค้า ชื่อนายวิน ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เป็นเพื่อนของผู้ต้องหา จากนั้นเวลา 02.00-03.00 น. ผู้ต้องหาได้ไปที่งานเลี้ยงที่บ้านนายวินที่ย่านเสาชิงช้า ชักออกมาจากเอวพูดว่า “เอาอีนี่ไปกระทืบหน้าร้าน” ลูกน้องของเขาได้แย่งปืนไป ผู้เสียหายยกมือไหว้ขอโทษโดยมีคนที่อยู่ในงานช่วยกันห้ามไว้ ไม่มีการทำร้ายกัน ผู้ต้องหาบอกให้ผู้เสียหายกับเพื่อนทั้งหมดมาขอโทษเขาที่บ้านที่สวนผัก กลุ่มผู้เสียหายกลัวจึงไม่ได้ไป

ต่อมาผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์ รวมทั้งผู้เสียหายให้การไว้ว่า วันที่ 29 ก.ค. การ์ดของสถานบันเทิงที่ทำงานแจ้งว่ามีคนชื่อเอกมารอ บอกว่าวันนี้ไม่เจอไม่เป็นไร เดี๋ยวจะมาทุกวันจะเอาปืนมายิงสาดที่หน้าร้าน พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินายเอกพลพบว่า เมื่อปี 63 เคยถูกจับกุมข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้การทำการ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 6 เดือน ผู้ต้องหาพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะนำปืนของกลางและกระสุนปืนดังกล่าวไปส่งตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน หากเป็นอาวุธปืนก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม วันที่ 1 ส.ค. พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้นัดผู้เสียหายทั้ง 3 คนไปสอบสวนเพิ่มเติมและดูอาวุธปืนว่าเป็นกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ หลังจากนั้นผู้เสียหายจะไปพบพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนตำรวจที่ไปร่วมงานเลี้ยงคาดเป็นเพื่อนของผู้ต้องหา ผบช.น.สั่งให้ตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเป็นตำรวจหน่วยใดและมีพฤติกรรมร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่ หากมีก็ต้องดำเนินการทั้งวินัยและอาญา ทั้งนี้ผู้ต้องหามามอบตัวมีพฤติการณ์ไม่ได้หลบหนี พนักงานสอบสวนสอบปากคำแล้วจึงปล่อยตัวชั่วคราว.