โฆษกตำรวจภูธรภาค 4 เผย ชาวบ้านบริเวณริมทางรถไฟ ชุมชนเทพารักษ์พบกล่องต้องสงสัยแจ้ง จนท.ตรวจสอบพบระเบิดเอ็ม 61 แบบเดียวกับที่ชายเร่ร่อนใช้จี้ตัวประกัน โดยวางอยู่ใกล้ที่พักชายเร่ร่อนคนดังกล่าว
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 และโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยถึงกรณีพบระเบิดในครั้งนี้ว่า เนื่องจากชาวบ้านบริเวณริมทางรถไฟ ชุมชนเทพารักษ์ ถ.ประชาสโมสร ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น พบกล่องทรงกระบอกวางอยู่ใต้รถพ่วง จึงแจ้ง พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (EOD) เดินทางไปยังจุดที่รับแจ้งและสามารถเก็บกู้วัตถุระเบิดได้ ตรวจสอบดูแล้วเป็นวัตถุระเบิดเอ็ม 61 (M 61) อยู่ในสภาพที่สามารถระเบิดทำลายชีวิตและทรัพย์สินได้
โดยระเบิดเอ็ม 61 เป็นวัตถุระเบิดชนิดเดียวกันที่คนร้ายชายเร่ร่อน ใช้เป็นอาวุธจี้จับตัวประกันที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ จุดที่พบระเบิดนี้ก็ใกล้เคียงกับจุดที่เกิดเหตุจี้จับตัวประกันเช่นเดียวกัน กับเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับตำรวจในการรักษาความปลอดภัยให้กับชุมชน สังคมส่วนรวม
...
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณใต้ทางรถไฟชุมชนเทพารักษ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น หลังมีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุแก่นนครว่า พบวัตถุคล้ายระเบิดวางอยู่บริเวณที่พักของชายเร่ร่อนที่ก่อเหตุใช้ระเบิดจับตัวประกัน เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบ ก็พบว่า วัตถุดังกล่าวที่พลเมืองได้มีการแจ้งมานั้นเป็นกล่องสำหรับไว้ใส่ระเบิด และภายในมีระเบิด M 61 จำนวน 1 ลูก ซึ่งเป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่ชายเร่ร่อนใช้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ EOD จึงนำระเบิดลูกดังกล่าวไปตรวจสอบ เพื่อหาที่มาและคนที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า ก่อนพบระเบิดนั้นเนื่องจากมีประชาชนได้มารื้อรถพ่วงที่ล่ามโซ่ไว้นานแล้วในจุดที่ชายเร่ร่อนเคยพักอาศัย เพื่อจะนำรถพ่วงไปใช้งาน ก็พบกล่องทรงกระบอกน่าสงสัย วางอยู่ใต้รถพ่วง จึงหยิบออกมาวางไว้ด้านนอกแล้วแจ้งประธานชุมชนทราบ จากนั้นจึงได้โทรแจ้งตำรวจให้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ภายหลังจากการตรวจสอบก็พบว่ากล่องดังกล่าวเป็นกล่องที่ใส่ระเบิดและมีระเบิดจริง จึงได้ประสานงานให้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนจะทำการเก็บกู้ เพื่อจะนำไปขยายผลเพื่อหาแหล่งที่มาต่อไป ส่วนอาการของชายเร่ร่อนก่อเหตุใช้ระเบิดจับตัวประกันนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ทำให้ยังไม่สามารถสอบปากคำรวมถึงตรวจสอบที่มาของระเบิดที่ใช้ก่อเหตุได้เช่นกัน.