สืบลุมพินี เปิดกล้อง โครงการ Smart Safety Zone ตามจับ 8 คนร้าย ก่อเหตุร่วมกันฆ่าผู้อื่น ผู้ต้องหาทั้งหมดรับเคยมีเรื่องกันมาก่อน จนนัดมาพูดคุยก่อนที่จะบานปลายถึงขั้นลงมือยิง ขณะที่ ผบช.น. ให้ความมั่นใจกับ ปชช. ในการกวาดล้างอาชญากรรม และติดตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดี


เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 65 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก, พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ, พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์, พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 สั่งให้ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี, พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี, พ.ต.ท.ภราดร สุวรรณรัตน์ สว.สส.สน.ลุมพินี, พ.ต.ต.ปกป้อง อุไรพันธ์ สว.สส.สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี สืบสวน ติดตามกรณีวันที่ 18 ก.ค. เวลา 20.30 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงนายชาย หรือบาส อายุ 29 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณทางเดินรถภายในชุมชนเทพประทาน แขวงคลองเตย เขตคลองเตย ตำรวจฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ได้ออกสืบสวนหาข่าวและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โครงการ Smart Safety Zone) ประกอบกับกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานเอกชนตามเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุ

จนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ 8 คน ได้แก่ นายสนธยา อายุ 27 ปี นายกิตติวัฒน์ อายุ 28 ปี นายวีระพงษ์ อายุ 28 ปี นายยิ่งใหญ่ อายุ 28 ปี นายกฤษดา อายุ 30 ปี นายขวัญ อายุ 30 ปี นายณัฐพล อายุ 28 ปี นายธนวัฒน์ อายุ 28 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ขอหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ และได้ทำการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาโดยตลอด

ต่อมาวันที่ 20 ก.ค. ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 คน ได้แก่ นายสนธยา อายุ 27 ปี นายกิตติวัฒน์ อายุ 28 ปี นายณัฐพล อายุ 28 ปี ได้ที่เดอะ ทรัสต์ คอนโด แอท บีทีเอส เอราวัณ ถ.สุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และตำรวจ สน.ลุมพินี สืบสวนหาข่าว ทำการกดดันผู้ต้องหา 5 คน ที่หลบหนีติดต่อขอเข้ามอบตัวที่ สน.ลุมพินี

...



ผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และรวมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" ตามกฎหมาย จากการซักถาม กลุ่มผู้ต้องหารับว่าได้มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน โดยผู้ตายมักมาทำร้ายชกต่อยพรรคพวกของตนเองก่อน จึงได้พากันมาที่เกิดเหตุเพื่อพูดคุยกับผู้ตาย แต่เหตุการณ์บานปลายจนเกิดการใช้อาวุธปืนยิงจนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

ล่าสุด (21 ก.ค.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. กล่าวว่า ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดีและจะดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยมากที่สุด

"บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความใส่ใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และยังคงยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่" ผบช.น.กล่าว