ตร.อ่างทอง รวบโจรถีบรถ จยย.หญิงสาววัย 34 ปีล้มชิงทรัพย์ก่อนจับผู้เสียหายแก้ผ้า เพื่อให้ติดตามตัวเองได้ช้า อ้างนำสิ่งของมาโยนทิ้งในที่เกิดเหตุ ด้าน ผู้เสียหาย ลั่นไม่ยอมอภัยเอาผิดถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2565 ที่ สภ.เมืองอ่างทอง ร.ต.อ.คุณภัทร ผิวบัวคำ รองสารวัตรสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้นำทีมชุดสืบสวน จับกุม นายณัฐวุฒิ สังใจสม อายุ 23 ปี ผู้ต้องหา ชิงทรัพย์โทรศัพท์และเงินก่อนจับผู้เสียหายแก้ผ้า ผู้เสียหายคือ นางจันทร์เพ็ญ แสงสว่าง อายุ 34 ปี ที่เกิดเหตุบริเวณ ถนนคันคลองทิ้งน้ำ หมู่ 4 ตำบลศาลาแดง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา
เบื้องต้น นายโอม หรือ นายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ได้ทำการการชิงทรัพย์และจับนางจันทร์เพ็ญ แก้ผ้าจริง เหตุผลที่ทำการแก้ผ้าผู้เสียหายเนื่องจาก ไม่อยากให้ผู้เสียหายได้ติดตามตัวเองทัน ไม่มีเจตนาอย่างอื่น ส่วนของกลางได้มาทำการโยนทิ้งที่เกิดเหตุ เนื่องจากเห็นข้อความที่เขียนด้วยปากกาอยู่บริเวณหลังรูปภาพของผู้เสียหายที่บรรยายถึงความรักต่อสามี ข้อความว่า ”พ่อจ๋าหนูรักพ่อจ๋าคนเดียว” เป็นเหตุผลที่นำกระเป๋าพร้อมรูปภาพมาโยนในที่เกิดเหตุ

...
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า จับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้เสียหายสามารถจำหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งรูปร่างผู้ก่อเหตุ จึงได้ติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว ก่อนนำไปส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ขณะที่ นางจันทร์เพ็ญ แสงสว่าง อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยด้วยอารมณ์ที่โกรธว่า ไม่ขอให้อภัยคนร้าย ถึงแม้ว่าจะขอโทษแล้วก็ตาม เพราะตอนที่ลงมือก่อเหตุไม่คิดเลยหรือว่าตนเองจะต้องบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด ส่วนรูปถ่ายที่เขียนบรรยายสุดซึ้งที่ทำให้คนร้ายสำนึกผิด เป็นรูปพ่อของผู้เสียหายที่เหลืออยู่ใบเดียว หลังพ่อเสียชีวิตไปเมื่อปี 60 ตนเองได้เขียนบรรยายถึงความรักที่มีต่อพ่อของตนเอง ซึ่งตนเองอยากจะได้ทรัพย์สินคืนทั้งหมด เพราะในโทรศัพท์ก็มีภาพถ่ายของพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วอยู่ด้วย และได้ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเพิ่งจะมาสำนึกได้ เมื่อเห็นรูปและข้อความที่เขียนถึงพ่อของตนเอง ทั้งๆ ที่ผู้ก่อเหตุก็มีลูกตนเองก็มีลูก ถ้าเกิดความรุนแรงจนตนเองต้องเสียชีวิตครอบครัวจะทำอย่างไรต่อไป
ส่วน นายอนันต์ ทองนิ่ม สามีผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเจตนากระทำความผิดถ้าจะให้อภัยต้องให้ญาติมาคุยตกลงค่าเสียหายกันก่อน เพราะตนเองคาดว่าที่ผู้ต้องหาลงมือทำลงไปโดยไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา.