อดีตตำรวจ ถูกให้ออกราชการ และถูกจำคุกเพราะยิงตำรวจด้วยกันตาย ล่าสุดถูกจับอีกรอบข้อหาฆ่าเมียตัวเอง จากพฤติกรรมชอบความรุนแรง โดยเฉพาะเวลาร่วมเพศ ยอมรับพลั้งมือ ไม่ได้ตั้งใจ ด้านญาติคนตายเผยผู้ต้องหาเข้าขั้นจิตวิปริต เคยบังคับให้ภรรยาร่วมเพศกับพ่อแท้ๆ
เวลา 08.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม สภ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายมีผู้เสียชีวิต ที่ชุมชนนายาง ซอยรื่นภิรมย์ เขตเทศบาลนาสาร อ.บ้านนาสาร เบื้องต้นเสียชีวิต 1 รายเป็นหญิง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.ไพฑูรย์ กระจะจ่าง ผกก.สภ.บ้านนาสาร พ.ต.อ.วัฒนา เบ้าศรี ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 แพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านนาสาร กู้ภัยกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ล้อมด้วยสวนยางพารา ในห้องนอน ใกล้เตียงมีที่นอนอีก 1 หลัง อยู่บนพื้น พบศพ นางรัตน์ (นามสมมติ) อายุ 51 ปี อดีตข้าราชการครู สภาพสวมเสื้อยืดและกางขาสั้นสีเทา ไม่สวมชุดชั้นใน มีรอยฟกช้ำ ทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ดวงตาปูดช้ำ ปากบวมเจ่อ เจ้าหน้าที่เข้าเก็บหลักฐาน พร้อมส่งศพชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลบ้านนาสาร ก่อนส่งต่อไปนิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
ส่วนที่ สภ.บ้านนาสาร นายกษมะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ผู้ก่อเหตุ สามีผู้ตาย ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวนเบื้องต้น สารภาพว่า เมื่อช่วงค่ำ คืนวันที่ 17 กรกฎาคม ได้ออกไปดื่มสุรากับเพื่อนบ้าน จนกระทั่ง 5 ทุ่มกลับเข้าบ้าน และมีเพศสัมพันธ์ร่วมหลับนอนกับภรรยาแบบปกติ ซึ่งตนเองมีพฤติกรรมทางเพศรุนแรง ขณะร่วมหลับนอนจะชกต่อยตบตี ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่กับภรรยามา 30 ปีก็เป็นแบบนี้ แต่นานๆ ครั้ง หรือเวลาเมาสุรา จะรุนแรง ครั้งนี้เมื่อมีเพศสัมพันธ์เสร็จได้หลับไปจนกระทั่งตื่นมา พบว่าภรรยานอนแน่นิ่งจึงโทรแจ้งญาติ และเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่พลั้งมือทำรุนแรงรู้สึกเสียใจ
...
ด้านน้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่าที่ผ่านมา พี่สาวถูกทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ก่อเหตุมีอารมณ์บางอย่าง มีพฤติกรรมทางเพศที่ผิดปกติ โดยเฉพาะหลังจากออกมาจากเรือนจำเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และเคยให้ตนเองไปบอกให้ลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงมาหา มารู้ภายหลังว่าจะบังคับร่วมหลับนอนแต่ไม่สำเร็จ ร้ายกว่านั้นเคยบังคับให้ผู้ตาย ร่วมหลับนอนกับพ่อแท้ๆ ให้ดู แต่ผู้ตายปฏิเสธ ซึ่งจะคัดค้านการประกันตัวถึงที่สุด เพราะเป็นภัยสังคม
ขณะที่เพื่อนบ้านที่มาที่เกิดเหตุต่างรู้สึกตกใจ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะดูผู้ก่อเหตุเป็นคนนิ่งเงียบ ไม่คลุกคลีกับเพื่อนบ้าน ใช้ชีวิตครอบครัวกันปกติเงียบๆ แต่เคยได้คุยกับผู้ตายตอนไปเต้นแอโรบิก ผู้ตายเคยบ่นว่าหากจะมาต้องทำอาหารไว้ให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นจะโดนสามีทำร้ายร่างกาย
สำหรับ นายกษมะ อดีตเคยรับราชการตำรวจ ขณะอยู่ที่สภ.กระบี่ ได้ก่อเหตุยิงตำรวจสืบสวนเสียชีวิตจากเรื่องจีบผู้หญิงคนเดียวกัน เมื่อปี 2554 ถูกให้ออกจากราชการและจำคุก 6 ปี 4 เดือน เพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือนมกราคม 2560.