ตำรวจไซเบอร์ นำกำลังเข้าบุกค้นร้านจำหน่ายปืนแบลงค์กัน ย่านถนนราษฎร์พัฒนา หลังพบลักลอบขายผ่านโซเชียล ยึดของกลางกว่า 1 พันกระบอก พร้อมตรวจใบอนุญาตการนำเข้าถูกต้องหรือไม่ ยังไม่แจ้งข้อหากับใคร

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 ก.ค. 2565 พ.ต.อ.วสุ เชื่อพุทธ ผกก.สน.บางชัน กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำกำลังตรวจยึดอาวุธปืนแบลงค์กัน (Blank gun) จำนวน 1,871 กระบอก กระสุนปืนแบลงค์กัน จำนวน 82,450 นัด ซองกระสุนปืนแบลงค์กัน จำนวน 31 ซอง ที่ร้านขายอาวุธปืนออนไลน์แห่งหนึ่ง ย่านถนนราษฎร์พัฒนา (ซอยมิสทีน) ว่า เป็นการตรวจยึดมาตรวจสอบความถูกต้อง เรื่องการนำเข้า การครอบครอง การจำหน่าย ผิดกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าของร้านกำลังรวบรวมพยานหลักฐานมาแสดง ภายในเร็วๆ นี้ โดยเจ้าของร้านเชื่อว่านำเข้ามาอย่างถูกต้อง

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน ผบก.ตอท.(กองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำกำลังเข้าตรวจค้นร้านขายอาวุธปืนออนไลน์แห่งหนึ่ง บริเวณ ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงและเขตสะพานสูง กทม.หลังสืบทราบว่า ร้านดังกล่าวมีการโพสต์เสนอขายสินค้าประเภทอาวุธปืนอัดลม เครื่องกระสุน และอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย

...

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งซื้ออาวุธปืนอัดลม และกระสุนปืนอัดลม จากร้านดังกล่าว ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันไลน์ จากนั้นได้นำอาวุธปืนที่สั่งมาส่งให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จังหวัดปทุมธานี ตรวจสอบ ผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่า อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว เป็นอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 จึงไม่ใช่สิ่งเทียมอาวุธปืน แต่จัดเป็นอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนฯ

จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายค้นเข้าตรวจสอบร้านดังกล่าว พบอาวุธปืนแบลงค์กัน (Blank gun) จำนวน 1,871 กระบอก กระสุนปืนแบลงค์กัน จำนวน 82,450 นัด ซองกระสุนปืนแบลงค์กัน จำนวน 31 ซอง เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนเจ้าของร้านอ้างว่า นำเข้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว มาจากประเทศตุรกี โดยได้รับใบอนุญาตจากกรมการปกครอง และนำมาเก็บไว้เพื่อรอจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำของกลางที่ตรวจยึดได้ ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพื่อขยายผลต่อ พร้อมประสานกองพิสูจน์หลักฐานกลาง อีกทั้งต้องตรวจสอบใบอนุญาตการนำเข้า หรือค้า ซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืน ยังนายทะเบียนท้องที่กรมการปกครอง ตลอดจนการนำเข้าฯ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง หากพบมีการนำเข้า หรือจำหน่ายอย่างผิดกฎหมาย จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.