เด็กเทคนิคถูกคู่อริไล่ยิง-ไล่ฟัน กระเจิงหนีตาย ย่านพระประแดง หลังเหตุการณ์สงบ พบวัยรุ่น อายุ 17 ถูกฟันเลือดอาบ เข้าที่หน้าบาดเจ็บ 1 พลเมืองดีรุดช่วยหามส่ง รพ. เบื้องต้นตำรวจส่งชุดสืบล่าคู่กรณีแล้ว

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ รับแจ้งเหตุมีกลุ่มนักเรียนอาชีวะถูกทำร้ายร่างกาย มีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณท่าน้ำอำเภอพระประแดง ฝั่งสำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบนักเรียนอาชีวะกลุ่มหนึ่ง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยบางคนยังมีสีหน้าตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาทันที เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ จากการสอบถามทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นเยาวชนชายอายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนของกลุ่มนักเรียนดังกล่าว ถูกฟันเข้าที่หน้าบริเวณโหนกแก้มข้างขวาเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกนำตัวส่ง รพ.ไปแล้วก่อนหน้านี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่ากล้องเสียไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้จากการสอบถามกลุ่มนักเรียนดังกล่าว ทราบว่า เป็นนักเรียนเทคนิคและกำลังเดินทางกลับบ้านหลังเลิกเรียน จึงรวมกลุ่มกันหน้าร้านชำแห่งหนึ่งบริเวณท่าน้ำปู่เจ้าสมิงพราย เพื่อรอแพข้ามฟาก จากนั้นคู่กรณีได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ มาด้วยกัน 2 คัน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยคู่กรณีสวมโม่งสีดำและหมวกกันน็อกทับอีกชั้น จากนั้นทั้งสองฝ่ายเริ่มมีปากเสียงกัน แล้วใช้หมวกกันน็อกฟาดใส่กันไปมา ก่อนจะถูกคู่กรณีใช้มีดและปืนที่พกมาด้วยไล่ทำร้ายกลุ่มผู้บาดเจ็บ จนบางส่วนต้องวิ่งหนีเข้าไปหลบในโรงเรียนใกล้ๆ ย่านที่เกิดเหตุ จากนั้นมาทราบทีหลังว่ามีเพื่อนถูกฟันได้รับบาดเจ็บ แล้วหนีไปหลบในห้องน้ำหญิงบริเวณร้านค้า ก่อนจะถูกพลเมืองดีช่วยเหลือเอาไว้ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

...

จากการสอบถามพลเมืองดีที่ช่วยนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เล่าว่า ตนได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จนลูกสาวตะโกนบอกให้หาที่หลบ พอเหตุการณ์สงบจึงออกมาดูก็พบว่า มีเด็กนักเรียนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงช่วยเหลือและพาส่งโรงพยาบาล

เบื้องต้น พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานและสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อติดตามตัวกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป