สาว 18 ถูก 6 วัยรุ่นชายพาไปรุมข่มขืนจนท้อง 7 เดือน ไม่ไกล่เกลี่ย แถมพาญาติอ้างเป็นตำรวจพูดจาข่มขู่ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม แจ้งความ สภ.เวียงชัย ตร.นัดไปชี้จุดวันนี้ พมจ.เชียงรายมาดูแลแล้ว

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อแม่ชาวอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย พาลูกสาวอายุ 18 ปี ไปติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.เวียงชัย หลังจากมาแจ้งความกรณีถูกกลุ่มชายอายุตั้งแต่ 16-22 ปี พาไปรุมข่มขืน เหตุเกิดเมื่อช่วงปลายปี 64 แต่หญิงสาวถูกข่มขู่จึงไม่กล้าบอกใคร พ่อแม่มาผิดสังเกตท้องโตผิดปกติจึงเค้นถามจนเด็กสาวยอมเปิดปากพูดความจริง พ่อและญาติๆ จึงพามาแจ้งความเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา และวันนี้ตัวผู้เสียหายพร้อมด้วยพ่อแม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ และน้องสาว 2 คน พากันมาติดตามความคืบหน้าของคดี แต่ปรากฏว่าทางพนักงานสอบสวนเวรเจ้าของคดีไม่ได้มาทำงาน แต่ทางญาติก็ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ พมจ.เชียงราย เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และจะให้เร่งรัดการสอบสวน ก่อนจะรับตัวหญิงสาวไปอยู่ในความดูแล

จากนั้นครอบครัวผู้เสียหายได้เดินทางไปติดตามผลการตรวจร่างกายที่ รพ.สมเด็จพระญาณสังวร อ.เวียงชัย จ.เชียงราย เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการแจ้งความดำเนินคดีกับ 6 วัยรุ่นชาย ที่ สภ.เวียงชัย ซึ่งผลการตรวจพบว่า หญิงสาววัย 18 ปี ผู้เสียหาย มีการตั้งครรภ์จริง อายุครรภ์ประมาณ 7-8 เดือน แพทย์ให้ฝากครรภ์และให้มาตรวจร่างกายเป็นระยะ ส่วนการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อหาความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ต้องรอให้คลอดลูกก่อน

นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี จ.เชียงราย กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64 วันนั้นออกไปเที่ยวที่บ้านร่องห้า ม.1 ต.ผางาม อ.เวียงชัย กับเพื่อนผู้หญิงที่บ้านอยู่ใกล้กัน เป็นกระท่อมกลางนา ไปเจอกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวกำลังดื่มเหล้ากันอยู่ ตนและเพื่อนก็เลยไปนั่งทานด้วย แต่เพื่อนกลับบ้านก่อนตอนไหนก็ไม่รู้ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นชายดังกล่าวได้ลงมือข่มขืนกระทำชำเราตน โดยมีคนกดมือทั้ง 2 ข้าง และผลัดกันข่มขืน จนรุ่งเช้าเพื่อนที่ชวนมาเที่ยวได้กลับมาเรียกตนกลับบ้าน เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าไม่ได้ใส่กางเกงใน และมีผู้ชายนอนขนาบข้าง 2 คน ตนจึงรีบแต่งตัวแล้วกลับมาบ้านพร้อมกับเพื่อน หลังจากกลับถึงบ้านได้มีหนึ่งในผู้ก่อเหตุโทรมาหาตน บอกว่าห้ามเอาเรื่องที่โดนข่มขืนไปบอกใคร หากมีคนรู้เรื่อง ถ้าไปเจอตนที่ไหนก็ฆ่าที่นั่น

...

หญิงสาวผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ต่อมาประมาณ 1-2 เดือนก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะประจำเดือนไม่มา เกิดความเครียด อยู่คนเดียวก็คิดมาก ไม่กล้าจะบอกใคร เคยคิดจะฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง แต่คิดถึงหน้าพ่อแม่ก็เลยไม่อยากคิดสั้น จนพ่อแม่มาผิดสังเกตที่ตัวเองรูปร่างท้วมขึ้น ท้องโต จึงมาเค้นถามกับตน ตอนนี้ผลตรวจออกมาว่าตัวเองท้องได้ประมาณ 7-8 เดือน ก็ตั้งใจจะเก็บเด็กไว้ และเลี้ยงดูให้ดีที่สุด ไม่รู้ว่าเพื่อนที่พาไปรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มชายดังกล่าวหรือไม่ ตั้งแต่เกิดเหตุเขาก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพื่อทวงคืนความยุติธรรม

ด้าน นายแดง (นามสมมติ) อายุ 40 ปี บิดาของนางสาวเอ กล่าวว่า ช่วงวันเกิดเหตุ คือ วันที่ 25 พ.ย. 64 ตนและภรรยาเดินทางกลับไปตัดหญ้าในไร่มันสำปะหลังที่ อ.เชียงแสน ทิ้งลูกให้ญาติช่วยดูแล ญาติบอกว่าเห็นลูกตนออกจากบ้านเมื่อเวลาประมาณ 16.00-17.00 น. แต่ไม่ทราบว่ากลับเวลาไหน จนเมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ภรรยาตนสังเกตุว่าลูกสาวรูปร่างท้วมขึ้น ท้องบวมโต ทีแรกก็คิดว่าอาจเป็นโรคอะไรสักอย่าง ไม่คิดว่าจะท้อง เพราะลูกสาวไม่เคยมีผู้ชายมาติดพันมาก่อน แต่ญาติหลายคนก็มาทักท้วงว่าน่าจะท้อง วันที่ 17 มิ.ย. จึงซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจก็พบว่าตั้งท้องจริง ก็เลยไปสอบถามที่ รพ.สต.ใกล้บ้าน เขาก็ว่าตั้งท้องแน่นอน จึงมาเค้นถามลูกสาวว่าไปมีความสัมพันธ์กับใครมา ทีแรกลูกสาวก็ไม่ยอมบอก เพราะโดนข่มขู่ แต่พอโดนซักหนักเข้าจึงยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

บิดาของนางสาวเอ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตัวเองและญาติก็ได้สืบจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ เป็นวัยรุ่นในพื้นที่ ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย และ ต.ปอ อ.เวียงแก่น มีอายุตั้งแต่ 16-22 ปี 2 ใน 6 คนนี้เป็นคนที่มีเมียอยู่แล้ว ตนจึงนัดผู้ก่อเหตุและครอบครัวไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.พญาเม็งราย เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ทีแรกได้มี 1 ใน 6 ยอมรับที่จะรับผิดชอบ แต่คุยไปคุยมาทางครอบครัววัยรุ่นชายคนดังกล่าวไม่ยอม โดยบอกว่าคนก่อเหตุร่วมกันมีตั้ง 6 คน ทำไมจะต้องมารับผิดชอบคนเดียว จึงไม่ยอมไกล่เกลี่ย ขอไปคุยในชั้นศาล ต่อมาไปพูดคุยกันอีกครั้งที่บ้านของตน ที่บ้านธารทอง ม.11 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. แต่ก็ยังตกลงกันไม่ไดั วันที่ 24 มิ.ย. จึงนัดไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้อีก ในรอบนี้มีคนที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาร่วมไกล่เกลี่ย ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นญาติ หรือคนรู้จักของผู้ก่อเหตุหรือไม่ แต่ได้พูดคุยทำนองข่มขู่ หยิบยกเอาข้อกฎหมายต่างๆ มาพูดเพื่อให้พวกตนยอมจบเรื่อง และไม่ให้บันทึกภาพโดยอ้างกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล

"พวกตนเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะมีคนที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมาเกี่ยวข้อง อยากสอบถามไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตำรวจจริงหรือไม่ มีความเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวอย่างไร เหตุใดจึงใช้เวลาในราชการมาร่วมในการไกล่เกลี่ยดังกล่าว ตนไม่อยากให้มีเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่เกี่ยวข้องมายุ่งเกี่ยวกับการสอบสวน เพราะจะส่งผลต่อรูปคดี" นายแดง กล่าว

ในเวลา 22.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 2565 ทางพ่อแม่และญาติสนิทก็ได้พาตัวของ นางสาวเอ ไปที่ สภ.เวียงชัย เพื่อไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว แต่ในระหว่างรอพนักงานสอบสวนได้มีชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจได้เดินทางมาที่ สภ.เวียงชัย พร้อมภรรยา และมีกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุและญาติตามมาในภายหลัง เมื่อมาถึงชายที่อ้างเป็นตำรวจดังกล่าวก็เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ไม่รู้ว่าไปพบปะพูดคุยกับใคร ทางญาติผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นคนเดียวกับที่มาพูดจาวางอำนาจ ข่มขู่ ในการเจรจาที่บ้านธารทองเมื่อช่วงบ่าย ทราบมาว่าเป็นตำรวจสายสืบแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย

ผลการตรวจร่างกายวันนี้พบว่า นางสาวเอ ได้ตั้งท้องอายุครรภ์ได้ประมาณ 7-8 เดือน แพทย์ได้นัดหมายเพื่อมาฝากครรภ์และตรวจครรภ์เป็นระยะแล้ว ในส่วนของคดีทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน ก่อนจะรับตัวหญิงสาวดังกล่าวไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดเชียงราย เพื่อบำบัดดูแลจิตใจของผู้ถูกกระทำไม่ให้เกิดความเครียดจนนำไปสู่อาการซึมเศร้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เลื่อนนัดผู้เสียหายมาให้ปากคำและชี้จุดเกิดเหตุ จากเดิมในวันอังคารที่ 28 มิ.ย. เลื่อนมาเป็นวันจันทร์ที่ 27 มิ.ย. 2565 นี้.

...