ผบก.ตท.เผยได้รับการประสานล่าตัวฆาตกรโหด ฆ่าสองสามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้อง 4 ศพ ยัดใส่ท้ายรถ จอดทิ้งที่ลานจอดรถสถานีรถไฟในไต้หวัน หลังก่อเหตุหนีกลับไทย ขณะที่ ผบช.ก.สั่งตำรวจกองปราบ เตรียมความพร้อม ตรวจสอบเบาะแสและทำข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นและตัวคนร้าย

กรณีคนไทยฆ่า 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้อง 4 ศพ ทิ้งท้ายรถเอสยูวี BMW X4 บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวนใน ไต้หวัน โดยผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนสนิท สันนิษฐานเกิดจากปมความขัดแย้งในเรื่องการกู้เงินและผลประโยชน์ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับจัดหาแรงงาน จนเป็นเหตุนําไปสู่คดีฆาตกรรม ได้หลบหนีกลับมาที่ประเทศไทย โดยเหตุที่เกิดขึ้นกำลังเป็นข่าวดังและสะเทือนขวัญที่สุดในไต้หวันขณะนี้

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) กล่าวว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เกิดเหตุฆ่ากันโดยคนไทย 2 สัญชาติ ไทย-ไต้หวัน ก่อเหตุฆ่าคนไทย 2 สามีภรรยา ซึ่งการข่าวพบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีเข้ามาที่ประเทศไทย โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันข่าวในเรื่องนี้จากเจ้าหน้าที่ที่เป็นทางการของไต้หวัน ทั้งนี้ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่อย่างไร และจะตรวจสอบว่าทางการไต้หวันได้ประสานงานมายังทางการไทยหรือไม่ โดยเฉพาะตำรวจกับตำรวจ ถ้ามีการประสานงานมาจะต้องพิจารณาว่ามีความร่วมมือกับไต้หวันมากน้อยเพียงใด จะดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง ซึ่งจะต้องไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.) เปิดเผยว่า ได้รับการประสานขอความร่วมมือในการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ โดยได้พูดคุยเบื้องต้นกับผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจไต้หวันตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งหนังสืออย่างเป็นทางการคาดว่าจะถึงในวันที่จันทร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตามตำรวจไทยและไต้หวันมีความร่วมมือที่ดีต่อกัน หากมีการร้องขอให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุก็จะมีการพิจารณาติดตามจับกุมให้ ในหลักต่างตอบแทน เนื่องจากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

...

รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจจะต้องพิจารณาว่าผู้ก่อเหตุได้สละสัญชาติไทยไปแล้วหรือไม่ เนื่องจากได้รับแจ้งข้อมูลว่าปัจจุบันผู้ก่อเหตุได้ถือสัญชาติไต้หวันด้วย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุยังคงถือหนังสือเดินทางของไทยอยู่

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยถึงคดีดังกล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นได้สั่งให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. จัดกำลังสืบสวนเรื่องนี้ พร้อมประสานไปยังตำรวจไต้หวันเพื่อรับทราบข้อมูลต่างๆ อยู่

ด้าน พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. ตรวจสอบเบาะแสและทำข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และตัวคนร้ายที่หนีกลับมาประเทศไทยไว้แล้ว แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ประเทศไทยไม่มีสนธิสัญญาเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมทั้งทางตำรวจไต้หวันเองยังไม่มีการประสานเรื่องมาให้กับตำรวจไทย ขณะนี้จึงทำได้แค่รวบรวมข้อมูลต่างๆ ไว้เพื่อเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา.