พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม แถลงข่าวขอโทษสังคม ยอมรับรู้สึกเสียใจกับภาพเหตุการณ์ 2 ตำรวจ สภ.สามพราน ใช้ความรุนแรงกับประชาชน ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่มีการช่วยเหลือกัน
จากกรณี สามวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร มาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ หลังขี่รถมาหาแฟนสาว แต่ไปเจอกลุ่มคู่อริยกพวกทำร้ายและไล่แทง บริเวณหน้าหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 44 ถนนบรมราชชนนี ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถตำรวจจอดอยู่คนละฝั่งถนน จึงขี่ย้อนศรเพื่อมาขอให้ตำรวจช่วยเพราะหนีอริมา แต่ตำรวจไม่ฟัง พร้อมสั่งการให้ยกมือขึ้นและนั่งลงกับพื้น ถอดเสื้อออก ค้นในตัวคนทั้งสาม หนึ่งในที่ถูกค้นตัวพบอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก ตำรวจจึงสั่งให้นอนลงใช้เท้าเหยียบหัว จับใส่กุญแจมือบังคับให้นอนลงกับพื้น โดยใช้เท้าเตะ กระทืบ ตบ ถอดเข็มขัดฟาด จนได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย ก่อนนำตัวขึ้นรถไป สภ.สามพราน ดำเนินคดี โดยตั้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 30 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา
ซึ่งจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ ได้ปรากฏคลิปเผยแพร่ทางโซเชียล เมื่อวันที่ 20 พ.ค.65 จนทีวีหลายช่องให้ความสนใจนำไปเสนอเป็นข่าวในวันเดียวกัน สร้างความฮือฮา มีการร้องเรียนถึงพฤติกรรมตำรวจที่กระทำอย่างรุนแรงโหดเหี้ยม จน พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ดำเนินการ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดกับตำรวจที่ทำเกินกว่าเหตุ ในครั้งนี้โดยเร่งด่วน แต่เนื่องจากติดประชุม รปภ.ขบวนเสด็จ จึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม รักษาการ ผบก. ดำเนินการออกคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ให้มาประจำที่ ภ.จว.นครปฐม ทันที เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
...
จากนั้นในเวลา 13.00 น.ของวันที่ 21 พ.ค.65 ที่ห้องประชุม ชั้น 4 สภ.สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชญเดช ผกก.สภ.สามพราน ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในเบื้องต้นยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ อยากขอโทษต่อสังคม ถึงกรณีดังกล่าว ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนกระทำความผิด แต่ก็ต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงว่าได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ เพื่อจะได้เกิดความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม ภ.จว.นครปฐม ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ โคตรสำราญ รอง สวป. และ ส.ต.ต.พนาดร ช่างเขียน ผบ.หมู่(ป.)สภ.สามพราน หยุดปฏิบัติหน้าที่ และไปประจำ ศปก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมทั้งออกคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับให้ สภ.สามพราน ติดตามผลการตรวจบาดแผลของวัยรุ่นทั้ง 3 คน ที่ถูกทำร้าย เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ชมชวิณ ยังเผยอีกว่า ในการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 2 นาย ที่ก่อเหตุได้ให้การว่า ร.ต.อ.ไชยะพจน์ โคตรสำราญ เข้าร้อยเวร 20 ส่วน ส.ต.ต.พนาดร เป็นคนขับรถ 20 ออกตรวจด้วยกัน ส่วนผู้ถูกทำร้ายคือ นายพัสวเรศ นามสมมติ อายุ 20 ปี ที่ตำรวจตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด อยู่ในตัว โดยวันเกิดเหตุ ตำรวจได้ออกตรวจพื้นที่พร้อมพลขับ ได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 มีการรวมตัวกลุ่มวัยรุ่นซิ่ง และมีการขี่รถแข่งย้อนศรไปมาบริเวณหน้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ จึงนำรถ 20 เปิดไฟวาร์ปไปตรวจสอบ แต่ไม่พบกลุ่มวัยรุ่น ร.ต.อ.ไชยะพจน์ จึงได้จอดรถเปิดสัญญาณไฟป้องกันเหตุ ระหว่างนั้น นายพัสวเรศ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาพร้อมกับพวกอีก 2 คน จึงเรียกตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และพบว่า 1 ใน 3 พกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน แต่ไม่ได้แจ้งว่ามีการทำร้ายร่างกาย จากนั้นจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น พ่อของ นายพัสวเรศ ได้มาแจ้งว่าลูกถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย โดยการเตะและกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ จนต้องเข้ารับการรักษาตัว
ผบก.ภ.จว.นครปฐม ยังเผยอีกว่า สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 29 ต่อเนื่อง 30 เมษายน 2565 ในพื้นที่ใกล้เคียงหลายจุด มีเหตุการณ์เกิดขึ้นรุนแรง โดยเราต้องป้องกันและควบคุมพื้นที่ของเราให้ดี ซึ่งปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนส่วนใหญ่นั้นเป็นปัญหาของกลุ่มเด็กแว้น แข่งรถซิ่ง ออกสู่ช่วงเวลากลางคืนเป็นประจำ โดยนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7 ได้เน้นย้ำให้ออกตรวจตราเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องเด็กแว้นแข่งรถซิ่ง มาโดยตลอด และในจุดดังกล่าวจะมีการแข่งรถอยู่เป็นประจำ จึงได้วางจุดสกัดตามแผนจับกุมตามปกติ แต่เมื่อเราทำงานและเกิดข้อผิดพลาด หรือภาพข่าวที่ไม่เหมาะสม ผมเองในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องขอโทษพ่อแม่ พี่น้อง กับฝ่ายของเด็ก ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำการติดต่อเด็กผู้เสียหายมาพบ ต้องรอการสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนของตำรวจทั้ง 2 นาย หากพบว่ามีความผิดข้อหาใดก็ต้องมีการดำเนินคดี ต้องมีการสอบสวนตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาว่าหลังจากที่มีภาพคลิป ออกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์และทีวีหลายช่องเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 พ.ค.65 พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม รรท.ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้ออกคำสั่งตำรวจภูธร จ.นครปฐม ที่ 273/2565 ลงวันที่ 20 พ.ค.65 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่ โดยอ้างอิงถึงภาพที่ปรากฏทางสื่อสังคมออนไลน์และทีวีหลายช่อง โดยเหตุเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนของวันที่ 30 เมษายน 2565 มีวัยรุ่นจำนวน 3 คน ขับขี่รถ จยย. ย้อนศรเข้ามาหาเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของสถานีตำรวจภูธรสามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นวัยรุ่นทั้ง 3 คน จนมีภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำต่อกลุ่มวัยรุ่นด้วยความรุนแรงจากภาพ ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำตัวกลุ่มวัยรุ่นพร้อมของกลางไปทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรสามพราน เหตุเกิดบริเวณหน้าหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 44 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งภาพที่ปรากฏออกไปเกิดเป็นประเด็นร้อนเพราะหนีจากคู่อริไล่ทำร้าย เพื่อมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจ เพราะเห็นรถตำรวจจอดอยู่ จึงขี่รถย้อนศรมาหา จากภาพจะเห็นว่าถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือ กระทืบ ถอดเสื้อ ใช้เท้ากระทืบ ทำรุนแรงกว่าเหตุ
...
เพื่อให้การปฏิบัติราชการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อราชการ จึงอาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ 2547 แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2563 จึงให้ข้าราชการตำรวจ 1. ร.ต.อ.ไชยะพจน์ โคตรสำราญ รอง สวป.สภ.สามพราน 2. ส.ต.ต. พนาดร ช่างเขียน ผบ.หมู่(ป.)สภ.สามพราน ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่จากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ฝ่ายบริหารงานรับผิดชอบงานศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม มอบหมาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ขณะเดียวกันหลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้น บรรดาญาติและพ่อแม่ของเด็กวัยรุ่นทั้ง 3 คน มารอเพื่อแจ้งความเอาผิดกับตำรวจที่ก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกไว้เพื่อเรียกมาสอบปากคำ เนื่องจากนายพัสวเรศ นามสมมติ อายุ 20 ปี ที่ถูกจับในข้อมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมายนั้น ได้สั่งฟ้องไปแล้วตัดสินอยู่ในเรือนจำ ต้องเบิกตัวมาสอบสวน ส่วนอีก 2 นาย เป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี นั้นถือเป็นเยาวชน ต้องนัดอัยการ นักสังคม มาร่วมในการสอบสวนด้วย ต้องรอนัดหมายพร้อมกัน