ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับชุดสืบสวนภาค 1 และชุดสืบสวน สภ.บางปะอิน โชว์ปิดคดี 2 โจรชิงร้านทองอุกอาจกลางห้าง ดังเมืองกรุงเก่า กวาดทองรูปพรรณหนักกว่า 86 บาท รวบผู้ต้องหาเพิ่มอีก 3 คน ทำเป็นขบวนการ

จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้มี 2 คนร้าย ใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง กวาดทองรูปพรรณไปกว่า 86 บาท เหตุเกิดที่ร้านทองเยาวราชเอเชีย ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาโรจนะ ถนนโรจนะ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ไม่ทราบเส้นทาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงสายของเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากชุดทีมสืบสวน กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับชุดสืบสวนภาค 1 และชุดสืบสวน สภ.บางปะอิน ได้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายผู้ก่อเหตุได้แล้วทั้ง 5 คน ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาแบ่งเป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน  โดยทั้งหมดต่างแยกย้ายกันหลบหนี หลังจากก่อเหตุ ทางชุดสืบสวนได้นำตัวสอบเครียดตลอดทั้งคืน และช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ได้นำรถตราโล่มารับตัวผู้ต้องหา โดยรับจาก ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นำตัวไปยังสถานีย่อยสินทิวาธานี โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้นถูกควบคุมตัวนั่งอยู่บนรถ โดยมีตำรวจนั่งคุ้มกัน ก่อนจะนำตัวทั้งหมดไปพบกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.บางปะอิน

โดยรายชื่อผู้ต้องหาทั้งหมด คือ นายคมสันต์ ขาวสุวรรณ อายุ 38 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร ชายชุดดำที่ใช้อาวุธปืนเข้าไปก่อเหตุ นายนพมาศ แหยมชอบใจ อายุ 45 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกับรับของโจร และร่วมกันมีอาวุธปืนและร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมทั้ง มีผู้ให้การสนับสนุน ในการก่อเหตุ ในการหลบหนี

...

นอกจากนี้ยังได้ขยายผล จับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ คือ นายพงษ์ชัยวัฒน์ สุวรรณเทศ อายุ 37 ปี ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบ จอดคอยพาผู้ต้องหาหลังก่อเหตุได้ยกกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถยนต์กระบะตู้ทึบ แล้วหลบหนี และ น.ส.พรทิพย์ ศิริยามัน อายุ 33 ปี น.ส.ธัญญารัตน์ ปรีเปรม อายุ 26 ปี ในข้อหาร่วมกันรับของโจร 
 
โดยจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปแถลงข่าวและทำแผน ยังจุดเกิดเหตุอีกครั้งต่อไป.