“ปริญญ์” เข้าพบตำรวจ สน.ลุมพินี ตามนัดหมายเรียกคดีอนาจารสาววัย 26 ในคอนโดหรูสุขุมวิทซอย 3 เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา ก่อนถูกนำฝากขัง ศาลให้ประกันชั่วคราวในวงเงิน 2 แสนบาท ปิดปากไม่คุยสื่อเหมือนเดิม ด้านทนายเผยแทน แชตที่หลุดมาเป็นแชตจริงจะนำไปสู้คดีและหลักฐานฟ้องกลับ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ระบุคดีนี้เป็นคดีที่ 4 ของ สน.ลุมพินี เป็นคดีที่ 5 ของนครบาล หากรวมที่เชียงใหม่และเพชรบุรีจะเป็นคดีที่ 7

ปริญญ์ พานิชภักดิ์” อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังเดินสายรับทราบข้อกล่าวหาในคดีคุกคามทางเพศหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่ สน.ลุมพินี เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 พ.ค. นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินีเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กระทำผิดฐานกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล โดยนายปริญญ์เดินทางมาด้วยรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เดินหลบสื่อมวลชนเข้าทางประตูด้านหลังโรงพักขึ้นไปพบพนักงานสอบสวนที่ชั้น 4 โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ขณะที่หน้า สน.ลุมพินี ตำรวจนำรั้วเหล็กมาวางกั้นเป็นแนวเพื่อนำตัวนายปริญญ์ส่งฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น.ดูแลด้านกฎหมายและคดี เปิดเผยหลังมาร่วมสอบปากคำนายปริญญ์ว่า คดีที่นายปริญญ์มารับทราบข้อกล่าวหาเป็นคดีที่ผู้เสียหายอายุ 26 ปี ร้องทุกข์กล่าวโทษเหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พ.ย.63 ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งแจ้งความไว้ตั้งแต่วันเกิดเหตุ มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้น รวมทั้งผู้เสียหายชี้ภาพจุดเกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่ 4 ของ สน.ลุมพินี เป็นคดีที่ 5 ในพื้นที่นครบาล หากรวมคดีที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เพชรบุรี จะเป็นคดีที่ 7 จากทั้งหมด 15คดี หมดอายุความ 2 คดี เกิดนอกประเทศ 1 คดีที่เหลือต้องรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบเพราะบางคดีเกิดมานาน เหยื่อจำวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องตรวจสอบว่าผู้ต้องหาและเหยื่อได้มาพบกันจริง ส่วนกรณีมีแชตหลุดหากนายปริญญ์จะนำมาเป็นข้อหักล้างทางคดีก็สามารถกระทำได้ โดยนำหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวน ได้แจ้งให้ผู้ต้องหาและทนายทราบแล้ว แต่ยังไม่มีทั้งผู้เสียหายและผู้ต้องหาให้ข้อมูลส่วนนี้มา ได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบแล้ว

...

ต่อมาเวลา 11.13 น. พนักงานสอบสวนนำตัวนายปริญญ์ออกจาก สน.ลุมพินี ไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อยื่นคำร้องฝากขัง โดยนายปริญญ์มีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเช่นเคยคำร้องบรรยายสรุปว่า ตำรวจได้จับผู้ต้องหาไว้กล่าวหาว่ากระทำอนาจารบุคคลอายุกว่า 15ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย, อนาจารต่อหน้าธารกำนัลตาม ป.อาญา มาตรา 278 และ 281 พฤติการณ์คือ เมื่อวันที่ 24-25 ต.ค.63 น.ส.บี (นามสมมติ) รู้จักผู้ต้องหาในงานหาเสียงที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วแลกเปลี่ยนเบอร์โทร.กัน จนวันที่ 13 พ.ย.63 นายปริญญ์นัดมาพบแล้วพาไปที่อาคารทาวเวอร์พาร์ค ซอยสุขุมวิท 3แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. พาขึ้นลิฟต์ไปชั้น20 ระหว่างนั้นได้ลวนลามพอถึงห้องก็ให้ดื่มไวน์ และลวนลาม น.ส.บีหลบหนีออกมาได้ ไปแจ้งความลงประจำวันไว้ พนักงานสอบสวนยังต้องสอบพยาน 7 ปาก ขอฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-17 พ.ค.ศาลอนุญาตให้ฝากขัง

ต่อมาทนายนายปริญญ์ยื่นคำร้องศาลขอปล่อยชั่วคราว ในวงเงินหลักทรัพย์ 2 แสนบาท ศาลอนุญาตตามคำร้อง ก่อนนายปริญญ์จะเดินกลับมาขึ้นรถไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน แต่ทนายความได้เปิดเผยสั้นๆว่า กรณีแชตไลน์ที่มีการเขียนเรียกคู่สนทนาว่า “พี่ปริญญ์” ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.63แชตที่หลุดออกมานั้นเป็นแชตจริง จะนำไปใช้ในการต่อสู้คดีใดคดีหนึ่ง และจะเป็นหลักฐานส่วนหนึ่งในการฟ้องกลับ หลังจากนี้จะรวบรวมเอกสารทั้งหมดเพิ่มเพื่อดำเนินการให้เร็วที่สุด