ตำรวจห้วยขวางยื่นฝากขัง “ปริญญ์” กระทำอนาจารเด็กฝึกงานอายุต่ำกว่า 18 ในรถ เมื่อปี 61 ศาลอาญาอนุญาตฝากขัง พร้อมทั้งพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัว ปริญญ์ ตีราคาประกัน 2 แสนบาท และห้ามออกนอกประเทศ

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 65 ที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ยื่นคำร้องฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค พรรคประชาธิปัตย์ กระทำความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดย บุคคลนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือ ผู้ดูแลเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี เพื่อการอนาจารพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง ใช้อำนาจ ครอบงำผิดคลองธรรมอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 วรรคแรก, 319,283 ทวิ วรรคแรก และมาตรา 284 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.อาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4

คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2561 น.ส.เอ นามสมมุติอายุ 17 ปี2เดือนซึ่งเรียนจบม. 6 ระหว่างรอเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อชั้นมหาวิทยาลัย ได้พบโฆษณาการอบรมโครงการ “โตแล้ว ไปไหน” โดยบริษัทเเห่งหนึ่ง ซึ่งมีหลักสูตรในการอบรมหลายแผนกตามที่ใคร จะสนใจ น.ส.เอ สนใจที่จะศึกษาแนวทางการทำงานเกี่ยวกับ “หลักทรัพย์และการลงทุน” จึงขออนุญาตบิดาและผู้ปกครองสมัครเข้าอบรมหลักสูตรดังกล่าว เเล้วไปทำการเช่าห้องพักคอนโดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เขตราชเทวี หากต้องการไปไหนกับใคร ต้องขออนุญาตก่อนเสมอ ซึ่งหลักสูตรนี้ยังมีคนอื่นเข้าร่วมอบรมด้วย รวมเป็น 2 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2561 ได้ ถูกส่งมาอบรมที่ บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งมีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร จึงได้จัดให้มีนายปริญญ์เป็น “พี่ต้นแบบอาชีพ”

...

ต่อมาในวันที่ 25 เม.ย.2561 นายปริญญ์ ไปเป็นพิธีกรบรรยายเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนและตลาดหลักทรัพย์ จึงให้ น.ส.เอ และเพื่อนออกมา ฝึกงานนอกสถานที่โดยในวันดังกล่าว น.ส.เอ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น กระโปรงสีดำขาสั้น จนเมื่อเสร็จงานเวลา ประมาณ 15.00 น.นายปริญญ์ ได้ให้เพื่อนของ น.ส.เอ แยกกลับบ้านไป แล้วได้พูดชักชวนจะไปส่ง น.ส.เอ ที่คอนโดที่พักโดยรถยนต์ส่วนบุคคลคล้ายรถตู้สีดำ จำทะเบียนไม่ได้ แต่ น.ส.เอ ไม่ยินยอม นายปริญญ์ จึงอาสาจะไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก เนื่องจากเห็นว่าเป็น “พี่ต้นแบบอาชีพ” ที่มาฝึกอบรมอยู่และจะต้องเป็นผู้ประเมินการ ฝึกอบรม จึงยินยอมให้ไปส่ง นายปริญญ์ ได้พาไปขึ้นรถที่บริเวณหน้าอาคารตลาดหลักทรัพย์ โดยในรถมีพนักงานขับรถ ประจำที่นั่งคนขับไม่มีกระจกกั้นระหว่างคนขับกับห้องผู้โดยสาร ซึ่งสามารถได้ยินการพูดคุยกันได้ชัดเจนหรือหากหันกลับมาดู ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

ระหว่างที่ น.ส.เอ นั่งเบาะด้านหลังคนขับ ส่วนนายปริญญ์ นั่งคู่กับ น.ส.เอ เมื่อรถ ขับออกมาเข้าถนนรัชดาภิเษกแล้วกลับรถขับไปตามถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าด้านอโศก นายปริญญ์ฯได้ชวนพูดคุยเป็น ภาษาอังกฤษ เนื่องจากเกรงว่าคนขับรถจะรู้เรื่องที่คุยกัน โดยสอบถามว่าเคยมีแฟนมาแล้วกี่คน เคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟน หรือไม่ เคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟนมาแล้วกี่คน เคยมีเพศสัมพันธ์แบบชั่วคราว หรือความสัมพันธ์แบบคนเดียวหรือไม่ และพูดขอมีเพศสัมพันธ์ ออกอุบายชักชวนให้ไปทานข้าว ชวนไปดื่มแล้วจะไปเปิดห้องกันต่อ และทำการใช้มือมาจับแขนลูบแขนแล้วจับบริเวณต้นขาลูบไล้ไปมา พร้อมทั้งโอบกอด และเอาใบหน้าเข้ามาใกล้หน้าของ น.ส.เอ พยายามหอมแก้มหลายครั้ง น.ส.เอ พยายามบ่ายเบี่ยง เอียงตัวหนีมาตลอดทาง ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาที่มีการจราจรติดขัด และเป็นถนนสาธารณะมีรถยนต์วิ่งอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจมองเข้ามาในรถและเห็นเหตุการณ์ได้ น.ส.เอต้องอยู่ในรถดังกล่าวกับนายปริญญ์นานประมาณ 45 นาที เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก จึงขออนุญาตลงจากรถ

หลังจากนั้น น.ส.เอ เกรงว่า หากไปฝึกอบรมอีก อาจจะเกิดอันตรายและจะถูกนายปริญญ์ ลวนลามหรือกระทำอนาจารทางเพศอีก เพราะเห็นว่านายปริญญามีเจตนาที่จะหาโอกาสเข้ามาใกล้ชิดตัวเองเพื่อทำอนาจาร หรือหากำไร และอาจถึงขั้นข่มขืนกระทำชำเราเมื่อมีโอกาส จึงไม่กล้าจะกลับไปฝึกอบรมอีก จึงโทรศัพท์ไปแจ้งถอนการฝึกอบรมกับบริษัท จนเมื่อประมาณวันที่ 14-15 เม.ย.65 เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ น.ส.เอ อยู่บ้านกับบิดา พบว่ามีการ นำเสนอข่าว ของผู้เสียหายที่ถูกนายปริญญ์ กระทำอนาจาร ทางโทรทัศน์ น.ส.เอ จึงเล่าให้บิดาฟัง จากการกระทำดังกล่าวทำให้ น.ส.เอได้รับความอับอาย และหวาดกลัวในการที่จะต้องทำงานร่วมกับเพศชาย ได้รับความเสียหายจึงมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด

เหตุเกิดที่ ในรถยนต์ส่วนตัวจากบริเวณอาคารเลขที่ 93 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2561 ชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหามาโดยตลอด หากแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก จะต้องสอบพยานจำนวน 3 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหามาประกอบสำนวน การสอบสวนเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป ประกอบกับพนักงานสอบสวนเห็นว่ามีเหตุที่ จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 5-16 พ.ค.65

...

หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ โดยภายหลังผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวตีราคาประกัน 2 แสนบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล.