ตร.เหมืองจี้ ทำแผนชิงทองลำพูน โดยผู้ต้องหาก้มกราบขอขมาเจ้าของร้าน อ้างอารมณ์ชั่ววูบ ชี้ คนร้ายวางแผนลงมือมาอย่างดีทำให้ทำอะไรไม่ทัน ขณะที่ จนท.ไล่ล่าหลานชาย ล่าสุด หนีมา กทม.พร้อมทอง 5 บาท

จากกรณีคนร้าย 2 คนใช้อาวุธปืนลูกซองยาว และปืนพกสั้น ปล้นร้านทองนริศรา สาขาตลาดจตุจักร กลางเมืองลำพูน ก่อนที่ทั้งสองจะขับรถยนต์ อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียนรถหมายเลขทะเบียน 1 กฐ 7517 กทม. คลุมด้วยผ้าใบสีฟ้าที่กระโปรงรถเพื่ออำพรางแล้ว ขับหลบหนีไปทางตัวเมืองลำพูน เบื้องต้นได้ทองคำไป 20 เส้นโดยหนึ่งในนั้นสวมชุดลายพราง หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.เหมืองจี้ อ.เมืองลำพูน ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ ระดมกำลังไล่ล่าคนร้ายตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายขับรถยนต์อีซูซุ สีขาว คลุมด้วยผ้าใบสีฟ้าป้ายทะเบียนรถหมายเลขทะเบียน 1 กฐ 7517 กทม. ขับหลบหนีไปทางตัวเมืองลำพูน ถูกนำไปจอดภายในบ้านเลขที่ 1 หมู่ 9 บ้านหนองซิว ต.ป่าสัก อ.เมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างหุ้นส่วนจำกัดรียูส รับซื้อขยะรีไซเคิล เจ้าหน้าที่ตำรวจจะระดมกำลังเข้าปิดล้อมจับกุม จนกระทั่งลูกสาวได้เข้าพบตำรวจ สารภาพว่าคนร้ายคือพ่อของตนเองชื่อ นายศุภกร เกิดมาก อายุ 64 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด รียูส หลังก่อเหตุ ขับรถยนต์โตโยต้า หมายเลขทะเบียน กบ 9699 เชียงใหม่ หลบหนีไป และเข้ามอบตัวพร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ 19 เส้น อาวุธปืน ปืนสั้นและยาว ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

...

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 เมษายน 2565 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ลำพูน พ.ต.อ.ดนัย ใจกล่ำ ผกก.สส.ภ.จว.ลำพูน พ.ต.อ.สามพราน จันทร์มั่งคั่ง ผกก.สภ.เหมืองจี้ จ.ลำพูน และ พ.ต.ท.ยศศรัณย์ คำวงษ์ รอง ผกก.สส. สภ.เหมืองจี้ จ.ลำพูน นำตัวนายศุภกร ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองนริศรา ตลาดจตุจักร และชี้จุดต่างๆ จำลองวันเกิดเหตุ ซึ่งระหว่างที่ทำแผน นายศุภกร ได้ก้มกราบขอขมา เจ้าของร้านทอง พร้อมกับพูดออกมาว่าตนสำนึกผิดกับการกระทำ และขอให้ยกโทษให้ตน เพราะทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัว นายศุภกร ไปทำแผนที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดรี-ยูส รับซื้อขยะรีไซเคิล บ้านหนองซิว ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน ที่เป็นจุดนำรถที่ใช้ก่อเหตุไป และนำทองไปซ่อน

นายพันธุ์ชัช ชุณห์วิสิทธิ์กิจ เจ้าของร้านทอง กล่าวว่า ตอนนี้ทองหายไป 1 เส้น น้ำหนัก 5 บาท คาดว่าคนร้ายอีกคนที่หลบหนีเอาไป ที่เหลือได้คืน 19 เส้น ขาดไปอีก 1 เส้นจะครบ 20 เส้น ซึ่งเวลาเกิดเหตุนั้นเร็วมากคนร้ายเตรียมการมาอย่างดี จึงทำอะไรไม่ทัน จากนี้ไปจะทำตามมาตรการรักษาความปลอดภัยตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำ รวมทั้งติดกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพิ่มเติมอีกด้วย

...

พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ. 5 เปิดเผยว่า คนร้ายยังคงหลบหนีอีก 1 คน คือ นายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของ นายศุภกร เกิดมาก ผู้ต้องหา หลบหนีด้วยการขึ้นเครื่องไปลงที่สนามบินดอนเมือง ได้สร้อยคอทองคำไป 1 เส้น น้ำหนัก 5 บาท ตามที่ผู้ต้องหาสารภาพ โดยผู้ต้องหาที่หลบหนีมีประวัติโชกโชน เพิ่งพ้นโทษคดีปล้นเมื่อปี 2565 ในพื้นที่ภาค 6 จ.พิษณุโลก ตอนนี้ตำรวจตามประกบอยู่ คาดยังกบดานพื้นที่กรุงเทพมหานคร.