มือปืนยิงรถอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู อ้างแค้นถูกอาสาสมัครคันอื่นขับรถปาดหน้าก่อน กลับบ้านหยิบปืนมายิง ตั้งใจยิงรถ ไม่ได้ตั้งใจยิงคน เพื่อนสนิทเผยเพิ่งพ้นคุกคดีฆ่าคนตาย เชื่อรับงานมาก่อเหตุแน่นอน

จากกรณีรถอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ถูกยิงด้วยอาวุธปืน บริเวณริมถนนตลาดนัดหัวมุม 11 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบ รถตู้ของอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู หมายเลขทะเบียน ฮษ 5759 กทม. มีรอยกระสุนปืนที่กระจกหลัง 1 นัด พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 3 ปลอก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.4 และฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกันควบคุมตัวชายอายุประมาณ 31 ปี ทราบชื่อเล่นว่า “ฝิ่น” มาสอบสวน จากนั้นนำตัวไปค้นหาอาวุธปืนของกลางและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สีแดง ทะเบียน 3ขฆ 8640 กทม. ส่วนอาวุธปืนออโตเมติกขนาด .380 พร้อมแมกกาซีน 2 อัน และกระสุนอีก 11 นัด นำไปฝากไว้บ้านเพื่อนย่านซอยหทัยราษฎร์ 16

จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุอ้างว่า ถูกอาสาสมัครคันอื่นขับรถปาดหน้าบริเวณ ถ.เลียบทางด่วนประดิษฐ์มนูธรรม ขาออก ทำให้ไม่พอใจ จึงกลับไปที่บ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกล นำอาวุธปืนกลับมายิง โดยยืนยันว่าจะยิงเพียงรถ ไม่ตั้งใจยิงคน และไม่ได้เป็นเรื่องบาดหมางระหว่างมูลนิธิฯ เพราะไม่ได้เป็นอาสาสมัครมูลนิธิใด และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับงานอาสามูลนิธิใดๆ ซึ่งการยิงในครั้งนี้เป็นการตั้งใจยิงรถอาสาสมัคร โดยไม่ได้เจาะจงว่าเป็นรถใคร

ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. ที่ สน.โชคชัย นายชยธร หรือ เบิร์ด ส่งศิริประดับบุญ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายยิงใส่รถตู้กู้ภัย เมื่อช่วงหัวค่ำคืนวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา เดินทางมาพบ ร.ต.ท.ณัฐรัฐ กฤตธีระภูมิ รอง สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมในคดี หลังทราบว่าทางตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุในคดีนี้ได้

...

นายชยธร ยืนยันว่าตนเองต้องการเดินทางมาพบกับเจ้าของคดี เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่ผู้ต้องหาอ้างว่าถูกขับรถปาดหน้า ตนเองยืนยันว่าไม่ได้ขับรถปาดหน้าใคร และจุดที่คนร้ายอ้างว่ามีการปาดหน้าตนเองก็ไม่ได้ผ่านจุดดังกล่าวมา สามารถตรวจสอบเส้นทางของรถตนเองได้ เนื่องจากมีการติดตั้งระบบติดตาม GPS รวมถึงที่บอกว่ามีการอ้างว่าถูกบีบแตรใส่ ตนเองยืนยันได้ว่ารถตนเอง ไม่มีแตร เนื่องจากเสียมาสักระยะหนึ่งแล้ว จากการได้ดูรถจักรยานยนต์ ก็ยืนยันได้ว่ามีรูปพรรณตรงกับที่ตนเองเห็นในวันเกิดเหตุ แต่ทะเบียนตนเองยืนยันไม่ได้เพราะที่เกิดเหตุมืด

ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหาอ้างว่าต้องการยิงแค่ตัวรถ ไม่ได้จะยิงคน ตนเองไม่เชื่อ เพราะตอนแรกตนเองเห็นว่าผู้ต้องหาเล็งปืนมาที่ตนเอง ก่อนจะยิงเข้าที่รถ และแนวปืนและจุดที่ยิง ไม่ได้อยู่ห่างมากนัก จึงเชื่อว่าเป็นการจงใจยิงใส่ตนเอง ทั้งนี้ยังยืนยันอีกว่าส่วนตัวไม่เคยมีปัญหากับใคร ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องการปฏิบัติหน้าที่อาสาสมัคร ยอมรับว่าการถูกยิงก็ทำให้เกิดความกลัว แต่จะไม่หยุดช่วยเหลือคนเจ็บ และจะทำงานด้านอาสาสมัครต่อไป

ขณะที่มารดาและพี่สาวผู้ก่อเหตุเดินทางเข้าเยี่ยมในเวลา 12.00 น. จนเสร็จสิ้นเวลาเข้าเยี่ยมในเวลา 13.00 น. โดยพี่สาวเปิดเผยว่า น้องชาย เล่าให้ฟังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงจริง ที่ทำไปเพียงเพราะโมโหที่ถูกปาดหน้า จึงก่อเหตุแต่ก็ไม่ได้เล่าในรายละเอียดใดๆ ซึ่งส่วนตัวน้องชายไม่ได้เป็นคนอารมณ์ร้อน และไม่ได้ทำงานมูลนิธิใดๆ ตนเองและมารดาจึงได้บอกกับน้องชายไปว่าขอให้ยอมรับในสิ่งที่ได้ทำไป

ต่อมาได้มีชายแสดงตัวว่าเป็นเพื่อนสนิทของผู้ต้องหาชื่อ เอิร์ธ โดยระบุว่าผู้ต้องหาเคยบอกตนเองก่อนเกิดเหตุว่าเดือดร้อนเรื่องเงิน และช่วงสองสามวันก่อนหน้านี้ เคยเข้ามาหาและเอาปืนมาโชว์ แต่ตอนนั้นผู้ต้องหาบอกกับตนเองว่าห้ามจับปืนเด็ดขาด ส่วนตัวจึงเชื่อว่าเพื่อนตนเองน่าจะรับงานมาก่อเหตุ เพราะแค่เรื่องปาดหน้าไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องยิงกันได้ อีกทั้งเพิ่งพ้นโทษในคดีฆ่าผู้อื่น และปัจจุบันทำอาชีพเกี่ยวกับการเก็บเงินกู้และเป็นพนักงานส่งของจากแอปพลิเคชันแห่งหนึ่ง ในวันนี้จึงเดินทางมาเพื่อขอเจอผู้ต้องหาและอยากพูดคุยเพื่อให้รับสารภาพทั้งหมดตามข้อเท็จจริง

พ.ต.อ.พรทวี สมวงศ์ ผกก.สน.โชคชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน ได้ขอศาลอาญาออกหมายจับ นายธีระวัฒน์ วิจารณ์กุล หรือ ฝิ่น อายุ 31 ปี ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นแล้ว ในส่วนของรายละเอียดคดี การทำงานของฝ่ายสืบสวนได้สืบสวนจนทราบตัวผู้ต้องสงสัย และพบว่ามีที่อยู่ในย่าน ถ.นวมินทร์ จึงมีการเชิญตัวมาสอบปากคำ และยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนอย่างละเอียด แล้วนำตัวไปฝากขังศาลอาญารัชดาต่อไป