คดีผู้จัดการ ร่วมกับหัวหน้าการเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ ก.เกษตร ร่วมกันโกง 491 ล้าน เบื้องต้นพบความผิดข้อหาเดียว "ลักทรัพย์นายจ้าง" เผยเรื่องแดงหลังโควิดระบาด เปลี่ยนใช้ระบบออนไลน์ให้บริการสมาชิก พบตัวเลขในระบบ มีจำนวนน้อยตัวเลขในสมุดคู่ฝาก 

วันที่ 7 เม.ย. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงกรณีอื้อฉาว สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด หลายราย พบเงินฝากในบัญชีหายไปจำนวนมาก ตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้จัดการสหกรณ์กับเจ้าหน้าที่สหกรณ์ผู้รับฝาก-ถอนเงินร่วมมือกันทุจริตสร้างความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ทางสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 คน ซึ่งหลังหายตัวไม่มาทำงานตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.

พล.ต.ต.จิรสันต์ คดีนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายเพื่อตั้งเรื่องคดีในการที่ขอศาลออกหมายจับ และนำมาสู่การออกหมายจับผู้กระทำความผิดสองราย คือนางพวงทิพย์ สุทธิแย้ม ผู้จัดการสหกรณ์ฯ และนางศิริพร รัตนปราการ หัวหน้าฝ่ายการเงิน ในฐานความผิด ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง ทาง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำสั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความ รวดเร็วโปร่งใส และยุติธรรม ขณะนี้พบเพียงความผิดเพียง 1 ข้อหา คือ ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง เนื่องจากทั้งสองไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่ทำงานในสหกรณ์ และหากรายละเอียดในการสอบสวน พบความผิดใดให้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม

ในส่วนการติดตามตัวมาดำเนินคดี ได้วางแนวทางให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้เดินทางออกนอกประเทศหลบหนีไปที่ประเทศลาวและประเทศเวียดนาม จากการตรวจสอบฐานข้อมูลในระบบการเดินทางเข้าออกประเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังไม่ปรากฏข้อมูลการเดินทางนอกประเทศ ทั้งนี้ได้ประสานข้อมูลนำหมายจับลงระบบของทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ในส่วนกรณีที่จะเสนอให้นายกรัฐมนตรี ส่งคดีนี้ไปให้กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ หากมีการรับเป็นคดีพิเศษ ทางพนักงานสอบสวนจะส่งมอบหลักฐาน และสำนวนให้ดีเอสไอเพื่อไปดำเนินการตามขั้นตอน

...

มีรายงานว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.1 จัดชุดทำงานของ กก.สส.บก.น.1 บูรณาการกำลังฝ่ายสืบสวนสน.นางเลิ้ง บก.สส.บช.น.และบก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ลงพื้นที่ติดตามตัวทั้งสองรายมาดำเนินคดีแล้ว ร่วมกันติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองอย่างเร่งด่วนแล้ว ในส่วนของการตรวจสอบบัญชีการเงินของผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ประสานข้อมูลกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า มีการยักย้าย ถ่ายเทเงินไปยังบุคคลใดบ้าง โดยเจ้าหน้าที่จะทำการอายัดบัญชีและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่านางศิริพร รัตนปราการ หัวหน้าฝ่ายการเงิน มีการเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.พชร จันทนะรัตน์ ด้วย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตลอดจนเส้นทางทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งสอง ขณะเดียวกันเป็นที่รู้กันในวงกว้างของคนในสหกรณ์ออมทรัพย์ของกระทรวงเกษตรฯ ว่าหนึ่งในสองผู้ต้องหา มีรีสอร์ตส่วนตัว และบ้านพักตากอากาศที่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม และอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารในย่านสนามกอล์ฟเมืองเอก จังหวัดปทุมธานี ทันทีที่ปรากฏข่าวการยักยอกโกงเงินสหกรณ์ ทำให้คนในสหกรณ์ออมทรัพย์ของกระทรวงเกษตรฯ สงสัยว่าทรัพย์สินดังกล่าวได้มาจากการโกงเงินสหกรณ์หรือไม่

สำหรับการตรวจสอบพบความเสียหายในครั้งนี้ เริ่มจากสถานการณ์โควิด-19 ผลักดันให้สหกรณ์กระทรวงเกษตรฯ นำระบบออนไลน์มาให้บริการกับสมาชิกได้ตรวจสอบข้อธุรกรรมกับสหกรณ์ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา มีสมาชิกหลายรายแจ้งว่า ข้อมูลจำนวนเงินในบัญชีเงิน ฝากออมทรัพย์พิเศษของระบบสมาชิกออนไลน์มีจำนวนเงินน้อยกว่าข้อมูลในสมุดบัญชีคู่ฝากที่สมาชิกมาทำธุรกรรมกับสหกรณ์เป็นจำนวนมาก เบื้องต้นพบว่ามีการปลอมลายมือชื่อสมาชิกถอนเงินและบันทึกข้อมูลในสมุดบัญชีคู่ฝากเท็จ แต่ในส่วนของรายการอื่น เช่น มูลค่าหุ้น การกู้เงิน เป็นต้น ยังไม่พบความผิดปกติ ส่วนหนึ่งเชื่อว่าช่องโหว่มาจากความไว้ใจของสมาชิกสหกรณ์ที่มีต่อเจ้าหน้าที่ โดยผู้ต้องหาทั้งสองมักพิมพ์ยอดฝากถอนของลูกค้าด้วยพิมพ์ดีดไฟฟ้า โดยอ้างว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของสหกรณ์เสีย ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้เสียหาย 85 คน จาก 133 บัญชี ยอดเสียหาย 491 ล้านบาท