"ทนายษิทรา" เข้าพบตำรวจบางนาให้ปากคำคดีแก๊ง พ.ต.ต. อุ้มรีดเงิน รับผู้เสียหายกังวลเรื่องความปลอดภัย และหวาดกลัว ยังติดต่อกันไม่ได้ ฟันธง "สว.คม" ไม่น่าตัวการใหญ่ คาดเจ้าของเว็บมีผลประโยชน์ร่วมกัน ชมเจ้าหน้าที่ทำงานไว
เวลา 17.05 น. วันที่ 2 เม.ย. 65 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ยุทธศิลป์ การินทร์ รอง ผกก.สอบสวน สน.บางนา เพื่อนำพยานหลักฐานเข้าให้เพิ่มเติมในคดีอุ้มรีดเงินนักพนันออนไลน์ โดยได้นำตัว แม่ของผู้เสียหาย เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวพยานขึ้นไปสอบปากคำที่ชั้นสองของโรงพัก
กระทั่ง เมื่อเวลา 19.15 น. การสอบสวนจึงแล้วเสร็จ นายษิทรา เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมแม่ของผู้เสียหายทั้งสองคน เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนและมาชี้รูปผู้ต้องสงสัย ว่ามีใครกระทำความผิดเพิ่มเติม โดยตำรวจได้สอบถามตนในประเด็นที่ สองสามีภรรยา ผู้เสียหายเข้ามาหาและพูดคุยเล่าเหตุการณ์อย่างไรบ้าง และประสานให้ผู้เสียหายทั้งคู่มาให้การเพิ่มเติม พร้อมชี้รูป ในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งทั้งสองคนกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ แต่วันนี้ทราบแล้วว่าเป็นตำรวจจริง 2 คน ส่วนอีก 2 คนไม่ได้มาด้วย แต่ถูกใส่ชื่อเข้าไปในบันทึกจับกุม ส่วนที่เหลือเป็นพลเรือน
นายษิทรา กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายทั้งสองคนขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ แม้แต่มารดาก็ยังติดต่อไม่ได้ มีเพียงเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา หนึ่งในผู้เสียหายได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาแต่ไม่ได้รับสาย ก่อนจะโทรกลับไปซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้รับสายเช่นกัน แต่เมื่อติดต่อไปทางมารดาก็ได้มีการพูดคุยและเชิญมาให้ปากคำพร้อมชี้รูปเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ซึ่งผู้เสียหายกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ ส่วนผู้เสียหายเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องกลัว
...
นายษิทรา กล่าวอีกว่า ภายหลังจากการชี้รูปทางพยาน มองเห็นไม่ชัด ไม่สามารถยืนยันได้ว่า พ.ต.ต.คม ไปตรวจค้นด้วยหรือไม่ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญแต่อย่างใด เพราะ พ.ต.ต.คม ได้ให้การยืนยันไปแล้วว่าไปอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งในทางกฎหมายต้องไปสู้กันในชั้นศาล ส่วนกรณีที่แม่ให้เงินไปกับใครนั้น ขอให้อยู่ในสำนวนการสอบสวนก่อนไม่สามารถเปิดเผยได้
นายษิทรา เผยว่า ในส่วนของคดีไม่มีความกังวลแต่อย่างใด จากการพูดคุยกับ ผกก.สน.บางนา และทีมพนักงานสอบสวน ทราบว่าได้ออกหมายจับเพิ่มเติมแล้ว คาดว่าจะจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ครบทุกคน มั่นใจการทำงานของตำรวจ เนื่องจาก รอง ผบ.ตร.ลงมาดูคดีนี้ด้วยตัวเอง และหลังจากที่ได้โพสต์เรื่องนี้ลงโซเชียล ตำรวจใช้เวลาเพียง 2 วัน ตำรวจก็รู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว ซึ่งเป็นการทำงานที่รวดเร็วต้องขอชื่นชม
นายษิทรา กล่าวว่า สำหรับ พ.ต.ต.คม ส่วนตัวคาดว่าไม่ใช่ตัวการใหญ่ เป็นเพียงแค่มือไม้ที่ลงมาทำเท่านั้น ส่วนตัวการใหญ่คาดว่าจะเป็นเจ้าของเว็บพนันนั้นเอง และคาดว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันไม่เช่นนั้นไม่มากระทำลักษณะนี้ และยืนยันว่าไม่รู้จัก พ.ต.ต.คมเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด และทราบว่าก่อนหน้านี้ พ.ต.ต.คมก็มีประวัติข่มขู่วินรถตู้ที่ย่านบางบัวทอง เมื่อปี 2556 มาแล้ว
นายษิทรา กล่าวอีกว่า ภายหลังจากนี้ผู้เสียหายรู้สึกกังวลเรื่องการใช้ชีวิตจะดำเนินต่อไปอย่างไร ซึ่งได้มีการพูดคุยเรื่องให้เจ้าหน้าที่เข้าคุ้มครองเพื่อความปลอดภัย แต่ขึ้นอยู่กับตัวผู้เสียหายด้วยว่าจะไว้ใจเจ้าหน้าที่หรือไม่ ส่วนเงินที่ได้มาจากการเล่นพนันที่เหลืออยู่นั้น ตามขั้นตอนเงินที่ได้มาจากการพนันนั้นเมื่อจ่ายไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องคืน และหากดำเนินคดีเรื่องเกี่ยวกับการพนัน ซึ่งทางผู้เสียหายยอมรับว่าเล่นจริง และหากถูกตำรวจแจ้งข้อหาก็พร้อมขึ้นศาลเพื่อรับการไต่สวนเสียค่าปรับเท่านั้น.