ตร.เตือนการโพสต์แนวคุกคามทางเพศ เช่น ครูที่เชียงรายส่งข้อความคุกคามทางเพศ ส่อล่วงละเมิดนักเรียนหญิง ถือเป็นความผิดคดีอาญา และหากโพสต์ภาพลามกอนาจารจะโดนความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ด้วย
กรณีเด็กนักเรียนหญิงระดับชั้น ม.6 โรงเรียนมัธยมระดับอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ได้ถูกครูคนหนึ่งในโรงเรียน พูดจาในทำนองคุกคามทางเพศนักเรียนหญิง จนเด็กเกิดความเครียดไม่กล้าไปโรงเรียน ต้องหนีไปอยู่อาศัยกับเพื่อน จนมีเพื่อนรุ่นพี่นำคลิปบันทึกเสียงการสนทนาโทรศัพท์ระหว่างครูและเด็กนักเรียนสาวไปโพสต์ขอความช่วยเหลือในสื่อโซเชียล และมีการส่งไปขอความช่วยเหลือในช่องทางทวิตเตอร์ของทีมงานพรรคก้าวไกลจังหวัดเชียงราย
ต่อมาทางทีมงานพรรคก้าวไกล ได้ติดต่อกลับเพื่อสอบถามถึงรายละเอียด จนทราบว่าครูคนดังกล่าวมีพฤติกรรมที่จะพูดจาขอคุกคามทางเพศ ชักชวนเด็กนักเรียนทำกิจกรรมทางเพศ และพบว่ามีการพูดจากับเด็กนักเรียนหญิงในลักษณะเดียวกันอีกหลายคน จนเด็กเกิดความเครียด ล่าสุดเด็กได้บันทึกเสียงสนทนากับครู และนำไปแจ้งครูประจำชั้น และมีการนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปแจ้ง ผอ.โรงเรียน จนนำไปสู่การเรียกไปดำเนินการสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนในการลงโทษครูผู้ก่อเหตุ ทุกวันนี้ครูคนดังกล่าวยังมาทำงานตามปกติ ทำให้เด็กสาวไม่กล้าไปโรงเรียน เพราะกลัวไม่ปลอดภัย
จากนั้น นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม ทีมงานทนายพรรคก้าวไกล จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนเข้ามา ทางทีมงานพรรคก็ได้เร่งในการประสานงานทันที ในส่วนตัวที่ทำงานด้านกฎหมายและทำงานในด้านเด็กและสตรีมานาน จึงได้เข้าไปพูดคุยสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้นจนทราบความชัดเจนมากขึ้นจากตัวผู้เสียหาย และได้ประสานงานขอความช่วยเหลือจากบ้านพักเด็กและครอบครัว พมจ.เชียงราย ในตอนนี้ทางบ้านพักเด็กได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ได้ติดต่อเข้ามาหาน้องผู้เสียหายเพื่อขอข้อมูลเบื้องต้น และกำลังจัดหาที่พักเพื่อให้น้องได้รับความปลอดภัยตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
...
ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวกรณีล่าสุด มีคลิปเสียงครูพูดลวนลามนักเรียนหญิง ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ที่มีพฤติกรรมการพูดคุย และชักชวนนักเรียนหญิง ม.6 ในเชิงชู้สาว และถูกพูดจาลามกตั้งแต่อยู่ ม.4 จนทำให้นักเรียนผู้ถูกกระทำไม่กล้าไปโรงเรียน โดยคดีอยู่ในพื้นที่ สภ.แม่สรวย ได้ลงประบันทึกประจำวันรับแจ้งไว้ในเบื้องต้นแล้ว และต่อมาเรื่องดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากถึงประเด็นในเรื่องความเหมาะสมและจรรยาบรรณความเป็นครู หรือดังกรณีที่เคยปรากฏเป็นข่าว มี รองผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีพฤติกรรมการพูดคุยผ่านแชตในเชิงชู้สาวกับนักเรียน อีกทั้งมีการขอดูรูป ส่งข้อความในลักษณะคุกคามทางเพศในรูปแบบต่างๆ อีกทั้งหลอกล่อให้นักเรียนไปหาที่บ้านเพื่อแลกกับการแก้เกรดให้
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า โดยสื่อสังคมออนไลน์เป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำสิ่งต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างอิสระ แต่ด้วยความอิสระนี้เอง ทำให้มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์บางคนใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ซึ่งมีหลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงความคิดเห็นในลักษณะคุกคามทางเพศ การส่งข้อความหรือการโทรศัพท์ส่วนตัวเพื่อชักชวนไปมีเพศสัมพันธ์ หรือการส่งภาพลามกอนาจาร และในปัจจุบันปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปเพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ และการคุกคามทางเพศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาหรืออาชญากรรมอื่นๆ ได้ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่ถูกกระทำ จนอาจจะเกิดเป็นบาดแผลภายในจิตใจหรือทำให้บุคคลนั้นรู้สึกไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า การกระทำลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น ทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ และเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางล่วงละเมิดทางเพศ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีการนำภาพในลักษณะลามกอนาจารไปโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ จะเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆ ที่มีลักษณะลามกอนาจาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือการนำภาพบุคคลอื่นไปโพสต์ในลักษณะล่วงละเมิดทางเพศ จะเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายจะต้องมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่ตนรับทราบการกระทำความผิด เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และขอให้เก็บภาพข้อความหรือโพสต์ที่เป็นความผิดไว้เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดีต่อไป
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอฝากเตือนถึงแนวทางการหลีกเลี่ยงป้องกันการคุกคามทางเพศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ดังนี้
1.อย่าไว้วางใจคนแปลกหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกออนไลน์, เก็บข้อมูลส่วนตัวของตัวเองให้ดี ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์, เคารพสิทธิของผู้อื่นอยู่เสมอ มีสติทุกครั้งในการแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวต่างๆ
2.ควรใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีสติ หากพบเห็นการกระทำดังกล่าว ที่เข้าข่ายคุกคามหรือผิดกฎหมาย อย่าส่งต่อ อย่าแสดงความคิดเห็น อย่าไปยุ่งเกี่ยวไม่ว่าจะทางใด
3.ขอเตือนไปยังผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ให้หยุดการกระทำของท่านเสีย เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ในสังคม อีกทั้งยังเป็นการสร้างความหวาดระแวงให้กับผู้อื่น รวมถึงหากมีการกระทำผิดก็จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย เสียชื่อเสียง เสียอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทุกคนได้รับความเดือดร้อนกันอยู่แล้ว ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำความรู้สึกของผู้อื่นเข้าไปอีก
...
นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดต่างๆ สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.