เพื่อนร่วมชั้นเล่านาที "น้องเปรม" ถูกรุ่นพี่ ทำร้ายจนเสียชีวิต เผยมารับขึ้นรถพาไปรับน้องในไร่อ้อยสุดน่ากลัว สั่งถอดเสื้อผ้า คลานแถกปลาหมอ ชกท้อง ชกหน้าอกจนจุกล้มแน่นิ่ง นำส่งรพ.แต่ช่วยไม่ทัน ขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายกับกลุ่มรุ่นพี่ทั้ง 7 คนแล้ว
วันที่ 15 มีนาคม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วยนายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี และนางนิตยา ชลภักดี อายุ 42 ปี คุณพ่อ และคุณแม่ของ นายพัสยศ ชลภักดี หรือ น้องเปรม นักศึกษาชั้น ปวส.ปี 1 แผนกช่างกลโรงงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกรุ่นพี่รับน้องโหด ได้นำร่างของลูกชายออกจากห้องพักศพ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ขึ้นรถตู้เดินทางไปยังสถาบันนิติวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ เพื่อทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด เนื่องจากน้องเปรมผู้เสียชีวิตป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องทำการผ่าพิสูจน์ศพในห้องความดันลบเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจาย ซึ่งคาดว่าจะทราบผลชันสูตรภายใน 7 วัน
ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.มะเริง ท้องที่เกิดเหตุที่มีการจัดกิจกรรมรับน้อง ได้สอบปากคำผู้ปกครอง พร้อมกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 จำนวน 7 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้องเปรมจนเสียชีวิต พร้อมกับสอบปากคำเพื่อนของน้องเปรมที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ซึ่งเป็นนักศึกษา ปวส.ปี 1 อีก 4 คน เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดี
นายเตอร์ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.ปี 1 แผนกช่างกลโรงงาน และเพื่อนร่วมชั้นเรียนของน้องเปรม เล่าเหตุการณ์ว่า ในวันเกิดเหตุมีกลุ่มรุ่นพี่จำนวนกว่า 20 คน ได้ประสานงานรุ่นน้องทั้งชาย และหญิง จำนวน 38 คน ไปจัดกิจกรรมรับน้องในป่าที่เกิดเหตุ โดยเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา โดยรุ่นพี่อ้างว่า เป็นกิจกรรมการรับน้องในรอบปี ซึ่งรุ่นพี่ได้ขับรถยนต์กระบะ 4-5 คันมารับกลุ่มรุ่นน้องไปที่ไร่อ้อยกลางทุ่งนาโล่งเตียน โดยจุดเกิดเหตุมืดมาก เพื่อนๆ หลายคนพากันหวาดกลัว
...
ก่อนเกิดเหตุ กลุ่มรุ่นพี่ได้สั่งให้กลุ่มรุ่นน้องผู้ชายถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด เปลือยกายล่อนจ้อน นอนเรียงแถวกับพื้น หากไม่พอใจก็จะโดนกลุ่มรุ่นพี่ชกที่หน้าท้องหรือถีบหลัง และก็มีการร้องเพลงประจำแผนก ใครร้องเพลงผิดเพี้ยนก็จะถูกทำโทษ ทั้งเตะ ถีบ ชก ตนก็ถูกรุ่นพี่ทำร้ายด้วยการชกที่หน้าท้องหลายครั้ง และถีบด้านหลังจนหัวคะมำ ยังถูกกลุ่มรุ่นพี่สั่งให้คลานแถกปลาหมอหรือไถร่างไปกับพื้นดินที่แข็ง จนหัวไหล่ และข้อศอกของตนเป็นแผล
ส่วนเหตุการณ์ที่รุ่นพี่ทำร้ายเปรมจนเสียชีวิต ตนก็อยู่ในเหตุการณ์ ช่วงจังหวะนั้นพวกตน 5 คนยืนห่างกัน เวลารุ่นพี่เดินผ่านทุกคนก็พากันกลัว ซึ่งเปรมก็โดนหนักหลายรอบเช่นเดียวกับตน ทั้งโดนชกหน้าท้อง และหน้าอกไปหลายรอบ ถูกชกด้วยมือเปล่า จนตนถึงกับเอ่ยปากถามเปรมว่า ไหวมั้ย ทำให้มีรุ่นพี่คนหนึ่งชกเข้าที่ลิ้นปี่ของเปรม จนเปรมล้มทรุดลงกองกับพื้น และหมดสติไป แม้ทุกคนจะพยายามช่วยชีวิต และพาส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายเปรมก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นพฤติกรรมของพวกรุ่นพี่ที่โหดร้ายเกินไป และตนรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียเพื่อนจากเหตุการณ์รับน้องครั้งนี้
ด้านพ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผกก.สภ.มะเริง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมรับน้อง ซึ่งเป็นกลุ่มรุ่นพี่มาสอบปากคำทั้งหมด 7 ปาก เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมดได้ยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุได้มีการจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่จริง โดยไม่เกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งกลุ่มรุ่นพี่ทุกคนก็มีความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยอมรับผิด โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายกับกลุ่มรุ่นพี่ทั้ง 7 คนแล้ว และหากการสอบสวนพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องอีกก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนศพของน้องเปรมนั้น ทางพ่อ และแม่ได้ส่งศพน้องไปตรวจพิสูจน์ศพที่สถาบันนิติเวชวิททยา โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากน้องที่เสียชีวิตติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การดำเนินการผ่าพิสูจน์ศพจึงต้องผ่าในห้องความดันลบ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อกระจาย ขณะที่การเจรจาพูดคุยหาทางเยียวยาให้กับครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้นัดหมายทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต ทางกลุ่มรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรม และทางมหาวิทยาลัยมาพูดคุยเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง.