ลูกชาย ร.ต.ท.โรงพักภูพิงคราชนิเวศน์ ถือปืนพ่อบุกห้องพัก ส.ต.ท.ภายในแฟลต ก่อนถูกยิงสวนดับ เผยชนวนเหตุมีปากเสียงกันเรื่องกลิ่นและควันบุหรี่ ลูกตำรวจพักอยู่ชั้นล่าง ผู้ก่อเหตุพักอยู่ชั้นบน ตักเตือนหลายครั้งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 3 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ขณะที่ ส.ต.ท.กำชัย คิดสม อายุ 31 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องพักเลขที่ 134 จู่ๆ นายสุรยุทธ์ สุทำทาน อายุ 21 ปี ลูกชายของ ร.ต.ท.ยงยุทธ สุทำทาน ตำรวจในโรงพักเดียวกันที่พักอยู่ห้อง 124 ได้ถืออาวุธปืนบุกเข้าไปในห้องพัก ที่ไม่ได้ล็อกห้องไว้และถูก ส.ต.ท.กำชัย ยิงสวนจนบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และมีรายงานว่าในช่วงเช้าวันนี้นายสุรยุทธ์ อาการสาหัสเสียชีวิตลงในที่สุด
พ.ต.อ.กิตติพงศ์ เพชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่สอบสวนในคดีนี้ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ส.ต.ท.กำชัย ได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และถูกนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.ช้างเผือก เบื้องต้นทราบมูลเหตุว่า คู่กรณีทั้งสองเคยมีปัญหากันมาก่อน ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาในเรื่องการสูบบุหรี่ โดยนายสุรยุทธ์ที่พักอยู่ห้อง 124 ชั้นล่างของแฟลต มักจะสูบบุหรี่ ส่งกลิ่นเหม็นขึ้นไปถึงห้องของ ส.ต.ท.กำชัย ซึ่งที่ผ่านมา ส.ต.ท.กำชัย ได้ตักเตือนหลายครั้ง ทำให้นายสุรยุทธ์ไม่พอใจมีปากเสียงกันเรื่อยมา
...
กระทั่งคืนที่ผ่านมา นายสุรยุทธ์ที่ดื่มสุรามา และอยู่ในอาการมึนเมา ได้ถืออาวุธปืนพกสั้นของบิดา เดินเข้าไปหา ส.ต.ท.กำชัย ถึงบนห้อง โดยบุกเข้าไปในห้องที่ไม่ได้ล็อกประตูไว้ เมื่อ ส.ต.ท.กำชัย เห็นคู่กรณีถือปืนบุกเข้ามาในห้อง จึงคว้าอาวุธปืนประจำกายยิงเข้าใส่เพื่อป้องกันตัว 1 นัด กระสุนเข้าบริเวณท้องได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบและรอมอบตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 1 ปลอก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
หลังสอบสวนเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่า แต่หลังจากรับรายงานว่า นายสุรยุทธ์เสียชีวิตลงในเช้าวันนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาเพิ่มเติม ขณะที่ ส.ต.ท.กำชัย ให้การยืนยันเป็นการป้องกันตัว และพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องมีหลักประกัน เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และผู้บังคับบัญชาจะไปรับตัวกลับ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์
พ.ต.อ.กิตติพงศ์ บอกว่า หลังจากนี้ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานอย่างเป็นทางการ ก่อนสรุปสำนวนส่งฟ้องดำเนินคดี โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย