สิงห์รถบรรทุกบีบแตรจังหวะสามช่า ท้าทายข้ามจังหวัด จากกำแพงเพชร ไปถึงชายแดน จ.ตาก สุดท้ายจบไม่สวย เกิดตะลุมบอนกลางด่านพรมแดนแม่สอดแห่งที่ 2 ฝ่ายหนึ่งมาคนเดียวสู้ไม่ได้ชักมีด คู่กรณีฟุบคาด่าน

เวลา 11.00 น. วันที่ 2 มี.ค. พ.ต.ท.ชัยรัตน์ น่านกาศ สว.เวรสอบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งมีเหตุพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถขนส่งสินค้าขาออกนอกประเทศ ด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 ติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก

ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่มีรถบรรทุกจำนวนมากและพบกับฝูงชน กำลังมุงดูเหตุการณ์ที่มีความวุ่นวายไปทั่วพื้นที่เกิดเหตุ ตำรวจสายตรวจ สภ.แม่สอด ทหาร และเจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนถาวรแม่สอดต้องประกาศขอให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ และพบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายชื่อ นายอภิชาติ แก้วเหตุ อายุ 32 ปี ถูกแทงที่แขนและขาตัดเส้นเลือดใหญ่ อาการสาหัส นายอุทัยภัทร พันธ์วงศ์ อายุ 37 ปี ถูกแทงที่แขน และนายศรายุทธ ปันโย อายุ 29 ปี ถูกแทงที่แขน รวมบาดเจ็บ 3 คน เจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนแม่สอดช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแม่สอด ล่าสุดอาการทั้ง 3 คนพ้นขีดอันตรายแล้ว

...

ขณะเดียวกัน ได้รับแจ้งจากพนักงานขับรถบรรทุกว่า ผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธมีดแทงคือ นายไพศาล บุตรดี อายุ 42 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุวิ่งหนีเข้าไปในอาคารสำนักงานขนส่งสินค้า และถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา แต่แล้วเหตุการณ์ชุลมุนก็เกิดขึ้นซ้ำสอง เนื่องจากระหว่างที่ตำรวจทั้งนำตัวนายไพศาลออกจากจุดเกิดเหตุ เดินผ่านกลุ่มคนจำนวนมาก ปรากฏว่ามีคนต่อยนายไพศาล จนเกิดการชุลมุนอีก ตำรวจต้องเสริมกำลังคุ้มกันตัวนายไพศาล ก่อนจะจับกุมตัวชายทั้งสองคนที่เข้าไปชกต่อยนายไพศาล ขึ้นรถยนต์ตำรวจ 2 คัน ไปสอบสวนที่ สภ.แม่สอด ท่ามกลางความรู้สึกไม่ปลอดภัยแก่ผู้มาใช้บริการที่ด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า จุดเริ่มต้นเรื่องนี้เกิดขึ้นบนถนนเขตจังหวัดกำแพงเพชร ระหว่างที่ นายไพศาล มือมีดกำลังขับรถบรรทุกสินค้า ได้มีรถยนต์บรรทุกสินค้าอีกคัน ทราบชื่อคนขับชื่อ นายปั๊ม ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี รถทั้งสองมีการขับรถคล้ายปาดกัน และยังมีการบีบแตรรถใส่กันโดยบีบแตรจังหวะสามช่า จากนั้นคู่กรณีทั้งสองฝ่ายบีบแตรท้าทายกันจากจังหวัดกำแพงเพชรยาวมาถึงจังหวัดตาก จนรถทั้งสองมาจอดที่ลานจอดรถด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2

ปรากฏว่า นายไพศาล จอดรถแล้วเดินเท้าไปตรวจโควิด แต่ฝ่ายคู่กรณีได้ไปพาพวกเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน เดินมาตามหาตัวนายไพศาล มีการพูดคุยเจรจากันเบื้องต้น แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงเปิดฉากรุมชกต่อยนายไพศาล โดยนายไพศาลซึ่งตัวเล็กกว่าและมีคนเดียว สู้ไม่ได้ จึงตัดสินใจชักมีดพกสั้นที่พกติดกับพวงกุญแจรถกระหน่ำแทงคู่กรณีได้รับบาดเจ็บไป 3 คน ท่ามกลางสายตาผู้คนจำนวนมากที่เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะกลัวลูกหลง