พ.ต.ท.เกริก แก้วแสนตอ สว.จร.สน.พหลโยธิน พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือครอบครัวเด็ก 7 ขวบ เช็ดกระจกรถ บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว พร้อมทำความเข้าใจว่าสังคมไม่ยอมรับ พร้อมยื่นมือช่วยหาทางสร้างอาชีพ

กรณีที่มีภาพปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ ปรากฏภาพเด็กผู้หญิงอายุยังน้อยเช็ดกระจกและขอเงินผู้ที่ขับรถผ่าน บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. วันที่ 22 ก.พ. 65 มีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ปกครองมาดำเนินคดี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ตำรวจ สน.พหลโยธิน ตรวจสอบจนทราบว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวคือ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 7 ปี ได้ติดตามแม่มาเช็ดกระจกขอเงินบริเวณดังกล่าว และสืบสวนจนทราบที่อยู่ของครอบครัวดังกล่าว โดย พ.ต.ท.เกริก แก้วแสนตอ สว.จร.สน.พหลโยธิน ได้ประสานงานเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางไปยังบ้านพักของครอบครัวดังกล่าว เพื่อที่จะร่วมกันหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น พบว่ามีคนในครอบครัว อยู่รวมกัน 5 คน แม่มีอาชีพขายพวงมาลัย ลูกคนโตอายุ 15 ปี คนเล็กอายุ 3 ขวบ บิดาของเด็กเสียชีวิตไป 2 ปี และมียายที่ต้องเลี้ยงดูอีก 1 คน มีฐานะยากจนขาดแคลนรายได้ ทำให้ต้องพาลูกมาตระเวนขอเงินจากผู้ใช้รถใช้ถนน

...

เจ้าหน้าที่ทำความเข้าใจกับครอบครัว โดยขอความร่วมมือให้หยุดพฤติกรรมการพาเด็กลงถนนเพื่อเช็ดกระจกรถ ขอเงินจากผู้ขับรถ พฤติกรรมดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม และอาจเกิดอันตรายกับเด็กได้ โดยเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วน ทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานเขตห้วยขวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจยินดีช่วยเหลือและจะจัดหาสวัสดิการของรัฐที่มีมาให้กับครอบครัว และหาทางสร้างอาชีพอันไม่ขัดต่อการยอมรับของสังคมให้กับครอบครัวดังกล่าว ในเบื้องต้นวันนี้ พ.ต.ท.เกริก ได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง ของใช้จำเป็นมามอบให้กับครอบครัว ด.ญ.บี เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น

พ.ต.ท.เกริกกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวอาจจะไม่สามารถจบได้ภายในวันเดียว หรือสองวัน อีกทั้งมักพบกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมากระทำผิดเป็นระยะๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จะหมุนเวียนกันมาในช่วงไม่ตายตัว โดยตลอดห้วงเวลา 4 เดือนย้อนหลัง ได้จับกุมดำเนินคดีไปทั้งสิ้น 11 ราย ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมมักจะไม่กลับมากระทำพฤติกรรมซ้ำเดิมอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้กวดขันและดำเนินการตามวิธีที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมที่ตรวจสอบพบต่อไป