แม่ผู้ต้องหาฆ่ายัดถังหญิงวัย 62 ปี จากโคราชทิ้งศพที่สุพรรณบุรี ขอเข้าเยี่ยมลูกชาย เผยลูกบอกแฟนสาววัย 18 โทรให้ไปหา เจอยายนอนอยู่สภาพใกล้ตาย ผู้หญิงถามจะช่วยฆ่ายายไหม เลยช่วยนำสายไฟรัดคอจนจาย แล้วห่อศพยัดถังนำมาทิ้ง ยืนยันจะไม่ยื่นประกันตัวลูกชาย
วันที่ 17 ก.พ. ที่ สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี หลังจากตำรวจได้ออกหมายจับ และจับ 2 ผู้ต้องหาในคดีฆ่า นางสมศรี ม่ามกระโทก หรือ ยายหวาน อายุ 62 ปี ยัดถังขยะ และนำศพมาทิ้งไว้บริเวณชายเขาชะโอย ม.10 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี คือ นายปฏิพล จันทรมณฑล อายุ 23 ปี และแฟนสาว ซึ่งเป็นหลานสาวผู้ตาย อายุ 18 ปี โดยเมื่อเย็นวันที่ 16 ก.พ. ได้พาตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปที่ห้องเช่าในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตรวจหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม รวมถึงให้ผู้ต้องหาชี้จุดที่ลงมือสังหาร นางสมศรี จากนั้นนำตัวกลับมาควบคุมตัวเพื่อสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เดิมบางนางบวช
บรรยากาศที่บริเวณด้านหน้า สภ.เดิมบางนางบวช วันนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าตำรวจได้เตรียมพื้นที่ และนำหลักฐานทั้งหมดในการก่อเหตุมาจัดเตรียมแถลงข่าว ทั้งรถยนต์ ถังขยะ วัตถุพยานต่างๆ โดยมีแม่ของนายปฏิพล ผู้ต้องหา มาเฝ้ารอพบลูกชายตลอดทั้งคืน และได้ขอเข้าเยี่ยมลูกชาย โดยแจ้งกับตำรวจว่าจะนำยาโรคไตมาให้ลูกชายที่ห้องขัง ซึ่งตำรวจได้แยกขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อยู่คนละห้อง ส่วนสภาพจิตใจของ น.ส.เอ อายุ 18 ปี เมื่อคืนนอนหลับสบายดี และยังดูนิ่งเฉย ส่วนนายปฏิพล ดูมีความกังวล มีความเครียดบ้าง
หลังจากแม่ของนายปฏิพล ได้เข้าไปเยี่ยมลูกชาย ออกมาพร้อมกล่าวว่า มารอลูกตั้งแต่เมื่อวาน มาถึงประมาณตี 3 เพราะห่วงน้องเป็นโรคไต ตั้งแต่อายุ 12 ต้องกินยาตลอด วันนี้ได้เข้าไปคุยกับลูก ลูกบอกว่าผู้หญิง(แฟนสาว) โทรให้มา พอมาถึงเห็นยายนอนอยู่เหมือนใกล้ตายแต่ยังไม่ตาย ผู้หญิงถามว่าจะช่วยไหม ช่วยกันฆ่ายาย เลยเข้าไปช่วยใช้สายไฟรัดคอยายจนตายแล้วก็ห่อศพ แต่ยังไม่ได้คิดว่าจะหนีไปไหน เพราะผู้หญิงยังเรียนอยู่ ยังห่วงเรียน เลยไม่อยากหนี แต่อยากไปอยู่กรุงเทพฯ เลยถามว่ารู้ไหมว่าฆ่าแล้วต้องมีคนเจอ ลูกบอกรู้ แต่คงจะรักผู้หญิง ตัวลูกรู้แค่ว่าผู้หญิงอยากฆ่ายาย ส่วนเงินลูกไม่ได้เอาไป เขามีเงินอยู่แล้วประมาณ 40,000 บาท แม่ทำไร่ขายของก็แบ่งให้ลูกไว้ ก่อนน้องไปถึงน้องไม่ได้บอกว่าผู้หญิงทำอะไรไปบ้าง เพราะเขาไปถึงเห็นยายนอนเหมือนคนใกล้ตายแล้ว ไม่เคยคิดว่าลูกจะมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ เพราะเลี้ยงและดูแลมาเป็นอย่างดี แม่ไม่ใช่คนรวย แค่พอมีกินมีใช้ ได้บอกกับลูกแล้วว่าจะไม่ประกันตัว เพราะไม่มีเงิน ลูกก็เฉยๆ ไม่พูดอะไร ที่เจอน้องไม่ได้ร้องไห้ อาจเพราะหลายวันแล้วคงจะร้องไห้ไม่ออก คิดว่าลูกคงหลงผิดไป
...
ต่อมา เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.นิกร ด้วงฉุน ผกก.สภ.เดิมบางนางบวช เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลสุพรรณบุรี ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันซ่อนเร้น เคลื่อนย้าย ทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เมื่อเดินทางมาถึง สภ.เดิมบางนางบวช ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นได้สอบสวน นายปฏิพล จันทรมณฑล ผู้ต้องหา ด้วยตัวเอง ถึงแรงจูงใจและวิธีการลงมือสังหารและนำศพไปทิ้ง ก่อนออกมาแถลงกับสื่อมวลชน ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพแล้ว ว่าร่วมกันลงมือฆ่า นางสมศรี ม่ามกระโทก ผู้ก่อเหตุได้ลงมือฆ่าที่โคราช และนำศพมาทิ้งในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี สาเหตุที่นำศพมาทิ้งที่สุพรรณบุรี จากการสอบเพิ่มทราบว่า นายปฏิพล เคยมาเรียนอยู่ใน อ.สามชุก ซึ่งคดีนี้มีการวางแผนเตรียมไว้ล่วงหน้า โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่ม คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และต้องของแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต เราจะเร่งสรุปคดีเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทางผู้ตาย และต้องขอขอบคุณทีมสืบสวนที่เร่งรัดจนปิดคดีได้โดยเร็ว นส.เอ (นามสมมุติ) ไม่ใช่หลานแท้ ๆ ของนางสมศรี ผู้ตาย แต่เป็นลูกของลูกพี่สาวผู้ตาย แต่รับมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก และรักเหมือนหลานแท้ๆ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า น.ส.เอ ได้เห็นเงินในบัญชีของผู้ตาย ซึ่งทาง นายดำรง (สามีผู้ตาย) บอกเป็นเงินที่กู้มาจากที่ทำงาน 100,000 บาท พอหลานเห็นเงินก็ได้วางแผนที่จะฆ่ายาย แต่นี่คือคำให้การของผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง ตอนนี้จากการสอบสวนก็ร่วมกันฆ่า จากการไปตรวจที่ห้องเช่าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลับฐานพบคราบเลือด และวัตถุพยานเพิ่มเติม
"ตอนนี้กำลังหาเชือกที่ใช้รัดคอว่านำไปทิ้งที่ไหน ส่วนน.ส.เอกับนายปฏิพล ทราบว่าทั้งคู่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก มาได้ประมาณ 1 ปี แต่เพิ่งงจะได้มาเจอกันครั้งแรก ซึ่งนายปฏิพล บอกว่า นส.เอ แบ่งเงินให้มา 30,000 บาท ส่วนเรื่องอื่นตอนนี้อยู่ในขั้นสอบสวนเพิ่มเติม หลังฆ่าแล้วผู้ต้องหาช่วยกันนำศพที่มัดไว้แล้วขนขึ้นรถกระบะ และวางไว้หลังเบาะ โดยเอนเบาะมานิดนึง" หลังจากแถลงข่าวเสร็จ พล.ต.ท.ธนายุตม์ ได้นำทีมพา นายปฏิพล ผู้ต้องหา ไปทำแผนชี้จุดที่ทิ้งศพ นางสมศรี
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากฝ่ายกสืบสวน เบื้องต้นทราบว่า หลังพบศพ ตำรวจได้เร่งตรวจสอบข้อมูลพยานแวดล้อม พร้อมตรวจลายนิ้วมือผู้ตาย จนทราบว่าผู้ตาย คือนางสมศรี ม่ามกระโทก อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 337 หมู่ 9 ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงได้สืบสวนตรวจสอบดูกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งตรวจสอบพยานใกล้เคียงในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ติดต่อไปหา นายดำรง ม่ามกระโทก อายุ 54 ปี สามีผู้ตาย และทราบว่าผู้ตายไปอยู่กับหลานที่ จ.นครราชสีมา โดยกลับไปตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. และติดต่อผู้ตายไม่ได้มาหลายวันแล้ว จึงได้ให้สามีผู้ตายโทรไปหาผู้ตาย และหลานสาวรับสาย ตาจึงถามว่ายายอยู่ไหม แต่หลานกับตอบว่ายายนอนอยู่ในห้อง ส่วนตัวเองเรียนอยู่ จากนั้นหลานสาวก็ปิดโทรศัพท์ยาย และไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงเกิดพิรุธเพราะยายตายแล้วทำไมหลานถึงตอบตาว่ายายนอนอยู่ที่ห้อง ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้พานายดำรง เดินทางไปที่ห้องเช่าที่ จ.นครราชสีมา แต่ไม่พบใคร จึงสอบถามเพื่อนข้างห้องและดูกล้องวงจรปิด จนทราบว่า น.ส.เอ ได้เก็บเสื้อผ้าหนีไปแล้ว โดยมีเพื่อนขี่ รถจยย. มารับไปส่งที่ บขส. จึงได้เร่งตรวจสอบติดตามจนทราบว่า น.ส.เอ ได้เดินทางขึ้นไปทางเหนือ จึงประสานกับตำรวจในพื้นที่ สภ.แม่สอด จ.ตาก ให้ช่วยติดตามตัว น.ส.เอ และแฟนหนุ่ม ซึ่งคาดว่ากำลังหลบหนี ผ่านไปทางด่านห้วยยะอุ ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จนสามารถจับกุมตัวได้ ขณะกำลังนั่งอยู่ในรถตู้โดยสารเพื่อที่จะหลบหนี
...
จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.เอ ซึ่งเป็นหลานสาว ของนางสมศรี ผู้ตาย อยากมีเงินเพื่อไปลงทุนและอยากแยกตัวออกจากยาย เพราะยายเป็นคนเจ้าระเบียบชอบบ่นเรื่องการเรียน และเรื่องคบผู้ชาย ซึ่งนส.เอ ได้รู้จักกับนายปฏิพล ผ่านโลกโซลเซียล และทราบว่า ตาได้ไปกู้เงินมาจากที่ทำงานประมาณ 100,000 บาท และเอาเงินไปเก็บไว้ที่ยายทั้งหมด จึงได้วางแผนโดยให้ นายปฏิพล แฟนหนุ่ม ซึ่งอยู่ที่จังหวัดตาก ขับรถลงมารอที่ จ.นครราชสีมา ซึ่ง น.ส.เอ ได้มาเช่าห้องอยู่กับยายเพื่อเรียนหนังสือ หลังจากน.ส.เอ เดินทางกลับจากจ.สระบุรนีมาที่ห้องเช่าพร้อมยาย หลังจากนั้นในวันที่ 10 ก.พ. เวลาประมาณ 01.00 น. ยายหลับสนิท น.ส.เอได้ติดต่อให้นายปฏิพล ที่มารออยู่แล้วเข้ามาที่ห้อง ก่อน น.ส.เอ ลงมือบีบคอยายในขณะนอนหลับ แต่ยายรู้สึกตัวและดิ้นสู้ น.ส.เอ สู้แรงไม่ไหวจึงเรียกแฟนให้เข้าไปช่วยและใช้สายไฟรัดคอ โดย น.ส.เอ ไปช่วยจับข้อเท้ายายไว้ จนยายเสียชีวิต
หลังจากนั้นจึงได้ช่วยกันใช้เชือกฟางสีขาวมามัดที่ตัวและขา ของยายและใช้ผ้าห่ม ห่อร่างยายไว้อีกชั้น และช่วยกันยกร่างผู้ตายไปขึ้นรถกระบะตอนเดียว และเอาศพไว้ด้านหลังเบาะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บฉ 7058 ตาก ของนายปฏิพล และขับออกมาพร้อมศพ ตอนเวลาประมาณตี 3 โดยขับมาตามทางเรื่อยๆ ผ่าน จ..สระบุรี จ.อยุธยา และเข้า จ.สุพรรณบุรี ถึง อ.สามชุกประมาณ 7 โมงเช้า ของวันที่ 11 ก.พ. จากนั้นไปหาห้องพักในเขต อ.สามชุด จ.สุพรรณบุรี จนเวลา 11.45 น. ได้ขับรถออกมา หาซื้อดิน และกากมะพร้าว เพื่อจะเอามาใส่ศพ และนำถังขยะสีฟ้า (ถังใส่ศพ) ที่ตั้งอยู่ริมถนนขึ้นรถมาเพื่อจะใส่อำพรางศพ แล้วขัรถไปกินข้าวใน อ.เดิมบางนางบวช ก่อนขับรถไปในป่าที่เปลี่ยวเพื่อนำศพใส่ถังขยะ ใส่ดินและกากมะพร้าวเข้าไปในถังขยะเพื่อปิดศพ จากนั้นขับรถนำศพไปทิ้งไว้ในจุดที่พบศพ เนื่องจากบริเวณนั้นมี่ทางที่รถยนต์สามารถขับเข้าไปได้ และด้านหลังเป็นป่าเขาห่างไกลจากผู้คน
...
หลังจากทิ้งศพเรียบร้อยแล้ว ที่นายปฏิพล ได้ขับรถพา น.ส.เอ กลับไปส่งที่ห้องเช่าใน จ.นครราชสีมา ส่วนนายปฏิพล ขับรถกลับบ้านที่จังหวัดตาก และได้แชตคุยกันตลอด จนมีคนมาพบศพ และเป็นข่าว นายปฏิพล จึงทักมาบอกว่าเรื่องแดงแล้ว เอายังไงดี น.ส.เอ จึงได้เก็บเสื้อผ้า ไปที่บขส.นั่งรถไปหาแฟนหนุ่มที่ จ.ตาก เพื่อที่จะหลบหนีต่อไป แต่ก็โดนตำรวจจับได้เสียก่อน
ด้านนายดำรง สามีผู้ตาย กล่าวว่า ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะอยู่กันคนละที่ โดยส่วนตัวยังไม่เชื่อว่าหลานเป็นคนทำ เพราะปกติน้องไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน และครอบครัวก็อบอุ่นดี อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ อยากให้ช่วยกันดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าให้มีปัญหา