หลานสาววัย 18 กับแฟนหนุ่มวัย 23 ปี ผู้ต้องสงสัยฆ่ายายหวาน หญิงวัย 62 ปี นำศพยัดถังจากโคราชมาทิ้งที่สุพรรณบุรี แล้วหนีไป จ.ตาก ถูกจับได้ยังไม่ยอมสารภาพ ขณะที่เพื่อนบ้านบอกยายกับหลานคู่นี้รักกันมาก ไม่น่าเป็นไปได้ที่หลานจะฆ่ายาย แต่ยายเพิ่งถูกหวย 1 แสน อาจเป็นชนวนเหตุ
จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ กรณีพบศพหญิงนิรนามถูกฆ่ายัดถังพลาสติกสีฟ้า 200 ลิตร ถูกทิ้งในพงหญ้าริมถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท บริเวณเชิงเขาชะโอย หมู่ 10 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน ในตัวไม่พบเอกสารหลักฐานว่าเป็นใคร เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายสังหารจากที่อื่นแล้วยัดศพใส่ถังขึ้นรถกระบะมาทิ้งอำพรางคดี
ตำรวจได้พยานหลักฐานจนทราบชื่อผู้ตายแล้วคือ นางสมศรี ม่ามกระโทก อายุ 62 ปี หรือ ยายหวาน บ้านอยู่ ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ไปพักอยู่กับหลานสาวอายุ 18 ปี ที่ห้องเช่าใน อ.เมืองนครราชสีมา หลังเกิดเหตุหลานสาวหายตัวไปอย่างน่าสงสัย ชุดสืบสวนแกะรอยจากข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ พบความเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ประสานตำรวจพื้นที่ช่วยตรวจสอบ
กระทั่งในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ขณะที่ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ร่วมกับกำลังทหาร ตั้งด่านตรวจความมั่นคงสกัดกั้นยาเสพติด ที่จุดตรวจบ้านห้วยยะอุ ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก เรียกตรวจค้นรถตู้โดยสารสายแม่สอด-ตาก ทะเบียน 10-1532 ตาก มีผู้โดยสารนั่งมาเต็มคัน ระหว่างขอตรวจสอบบัตรประชาชนบุคคลภายในรถ ปรากฏว่ามีผู้โดยสาร 2 คน เป็นชายและหญิงออกอาการมีพิรุธ เชิญทั้งคู่ลงจากรถเพื่อขอตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ ทราบชื่อนายเอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ชาว อ.แม่สอด และ น.ส.อร (นามสมมติ) อายุ 18 ปี แฟนสาว เป็นหลานของนางสมศรี เหยื่อฆ่ายัดถังที่ตำรวจสุพรรณบุรีประสานให้ช่วยตามหาตัว เนื่องจากต้องสงสัยว่าเป็นคนสังหารยายของตัวเอง เบื้องต้นเจ้าตัวยังไม่ยอมเปิดปากให้การ
...
ทั้งนี้ ตามแนวทางการสืบสวนทราบว่า นางสมศรี ผู้ตายมีสามีเป็นพนักงานรถไฟอยู่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ทั้งคู่ไม่มีลูกด้วยกัน ได้รับเด็กผู้หญิงมาเลี้ยงเป็นลูก 1 คน ต่อมาลูกสาวแต่งงานมีสามีและคลอดลูกออกมาเป็นเด็กหญิงคือ น.ส.อร ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ผู้ตายเลี้ยงหลานสาวมาตั้งแต่ยังเล็ก มีความรักผูกพันกันมาก กระทั่งหลานสาวย้ายไปเรียนชั้น ปวช. ที่ อ.เมืองนครราชสีมา ผู้ตายจึงย้ายไปเช่าห้องอยู่เป็นเพื่อนหลานสาว อยู่ด้วยกัน 2 คน และจะกลับบ้านที่ อ.แก่งคอย ทุกวันหยุด เบื้องต้นคาดว่า วันเกิดเหตุ น.ส.อร น่าจะทะเลาะมีปากเสียงกับผู้เป็นยาย แต่ไม่ทราบสาเหตุและอาจพลาดพลั้งลงไม้ลงมือกันรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ด้วยความตกใจโทรศัพท์เรียกแฟนหนุ่มมาช่วยกันใช้เชือกมัด และใช้ผ้าห่มห่อศพยัดใส่ถัง ขนใส่ท้ายรถกระบะที่แฟนหนุ่มยืมญาติมา นำศพไปทิ้งที่ จ.สุพรรณบุรี เพื่ออำพรางคดี
ล่าสุด วันที่ 16 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้ไปที่สถานีรถไฟนครราชสีมา เพื่อขออนุญาตตรวจสอบภาพวงจรปิด วันสุดท้ายคือวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14.52 น. ที่มีคนพบนางหวาน และหลานสาวลงรถไฟหลังเดินทางกลับจาก จ.สระบุรี โดยนางหวานอยู่ในชุดเสื้อสีฟ้าลายน้ำเงิน กางเกงขาสั้น หิ้วตะกร้า ส่วนหลานสวมเสื้อเเขนยาวสีขาวกางเกงยีนส์ หิ้วสัมภาระ และสะพายกระเป๋าเดินลงจากรถไฟ และเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วง เพื่อกลับห้องพักห่างจากสถานีรถไฟ 2 กิโลเมตร
นางนุ้ย (นามสมมติ) เพื่อนบ้านที่เช่าห้องใกล้กัน เล่าว่า ยายหวานมานั่งพูดคุยกับตนตามปกติแล้วกลับเข้าห้อง จากนั้นก็ไม่พบยายหวานอีกเลย มาพบหลานสาวยายอีกครั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ก.พ. ได้เดินออกจากห้องเอาเงิน 200 บาท มาคืนตนเองที่ยายหวานเคยยืมไป หลังจากนั้นหลานสาวก็ล็อกประตูห้องเช่าแล้วก็หายไปเลย จากการสอบถามคนเช่าห้องที่อยู่ด้านหน้า บอกว่าเห็นรถกระบะสีขาวมาจอดในซอย แล้วคนในรถได้เข้าไปในห้องยาย จากนั้นก็หายไปเช่นกัน
"รู้สึกตกใจไม่นึกว่า ยายหวาน จะมาถูกฆ่ายัดถังตามที่เป็นข่าว ซึ่งถ้าเป็นฝีมือหลานสาวก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะยายหวานรักและห่วงหลานสาวคนนี้มาก เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก ดูแลทุกอย่าง แต่ยายเคยมาคุยให้ฟังว่าถูกหวย 1 แสนบาท ลูกชายโอนเงินมาให้แล้ว ซึ่งก็ยังดีใจกับยายอยู่เลย จะเป็นเพราะเห็นว่ายายมีตังค์หรือเปล่า จึงเป็นชนวนเหตุให้ถูกฆ่า แต่ก็ไม่ทราบนะ อาจจะไม่ใช่ก็ได้" เพื่อนบ้าน กล่าว
สำหรับ หลานสาวยายหวาน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาลงมือฆ่าร่วมกับแฟนหนุ่ม เรียนอยู่ที่วิทยาลัยเอกชนชื่อดังใกล้กับสถานีรถไฟ และอยู่ระหว่างการฝึกงานที่กองจัดการเดินรถไฟเขต 2 นครราชสีมา โดยในวันที่ 9-10 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา หลานสาวยายหวานได้หายไป ไม่มาฝึกงาน แต่กลับมาขอใบผ่านการฝึกงานอีกครั้งในวันที่ 14 ก.พ.2565 จากนั้นหายตัวไป ซึ่งคาดว่ายายหวานจะถูกฆาตกรรมในช่วงวันที่ 9-13 ก.พ.65 ก่อนที่คนร้ายจะช่วยกันนำศพยายหวานขึ้นรถกระบะไปยัดใส่ถังขยะข้างทาง แล้วนำไปทิ้งในเขต จ.สุพรรณบุรี จากนั้นหลบหนีไป จ.ตาก ก่อนถูกจับได้ดังกล่าว.