คืบหน้ากรณี 3 คนร้ายบุกปล้นทอง 187 บาท ที่ อ.พบพระ ล่าสุดหนีข้ามไปฝั่งเมียนมาแล้ว โดยประสานกะเหรี่ยงเคเอ็นยูในพื้นที่ช่วยตามจับ เร่งสืบหาผู้เกี่ยวข้อง และรวบรวมพยานหลักฐาน คาดได้ตัวเร็วๆ นี้


เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.พบพระ จ.ตาก ถึงความคืบหน้าคดีคนร้าย จำนวน 3 คน นำรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ เลขทะเบียน 1910 กำแพงเพชร และใช้อาวุธปืนยิงใส่ประตูกระจกที่ร้าน พร้อมกับใช้ค้อนทุบประตูกระจกเข้าไป จากนั้นได้นำเอาทองคำรูปพรรณ น้ำหนักจำนวนเกือบ 187 บาท หลบหนีไปอย่างลอยนวล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 65 นั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงกระจายกำลังติดตามคนร้ายอย่างต่อเนื่อง

โดยจัดชุดสายสืบลงพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ที่บ้านยะพอ ตำบลวาเล่ย์ อ.พบพระ และแนวชายแดนด้านอื่นๆ เพื่อหาข้อมูลแหล่งกบดานของคนร้ายที่ทราบภายหลังว่า คนร้ายได้หนีไปฝั่งประเทศเมียนมา ในเขตอิทธิพลของกองกำลังเคเอ็นดีโอ ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับฝ่ายทหารกะเหรี่ยงในการติดตามจับกุมคนร้ายที่หนีข้ามไปฝั่งเมียนมาแล้ว ขณะเดียวกันยังไม่ทิ้งในเขตไทยโดยการตั้งจุดสกัดตรวจค้นรถยนต์ หรือจักรยานยนต์ที่สงสัย เพื่อป้องกันการนำทองรูปพรรณที่ปล้นเคลื่อนย้ายไปเก็บซ่อนไว้

...

สำหรับจุดที่คนร้ายหนีข้ามไปฝั่งเมียนมานั้น เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะสีขาวเพิ่มอีก 1 คัน จอดอยู่ที่ริมลำห้วยยะพอ ระหว่างเขตแดนไทยกับเขตเมียนมา เสื้อผ้าของคนร้ายที่สวมใส่ขณะปล้นร้านทอง และรองเท้า 2 คู่ รวบรวมพยานหลักฐานเก็บไว้ที่ สภ.พบพระ

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตาก ยังคงทำงาน ติดตามคนร้าย ร่วมกับ กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 และชุดสืบสวนตำรวจภูธร พบพระ ในการติดตามคนร้าย โดยพลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ขณะนี้ลงพื้นที่ ติดตามคดีด้วยตนเอง มีนโยบายกำชับให้ทุกฝ่ายรวบรวมหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ และเก็บดีเอ็นเอต่างๆ อย่างละเอียด ทั้งในที่เกิดเหตุ และประจักษ์พยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัย ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อจะนำมาสู่การดำเนินคดีกับคนร้าย ทั้งนี้ในกรอบของการทำงานของชุดสืบสวน ขณะนี้ตีวงแคบลง แต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดต่อสาธารณชนได้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวน แต่ก็คาดว่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้.