ร้านทองนางรอง บุรีรัมย์ เกือบสูญเงิน 5 ล้าน หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพซื้อทอง ก่อนสั่งจ่ายเงินเข้าบัญชี แต่เจ้าของร้านไม่ปักใจเชื่อ ตรวจพบว่าเป็นการเขียนเช็ควางไว้เพื่อรอเคลียร์ริง ก่อนแจ้งตำรวจ พร้อมเตือนร้านทองทุกแห่ง

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวเปรมยุดา กำเพ็ชรภักจิรวานิช อายุ 45 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราชหลานแม่กิมกี่ ในตัวอำเภอนางรองจังหวัดบุรีรัมย์ ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกซื้อทองจนเกือบสูญทองกว่า 200 บาท เป็นเงิน 5.8 ล้านบาท และอยากจะให้เจ้าของร้านทองทั่วประเทศระวังตัว เนื่องจากแก๊งนี้ใช้วิธีที่อาจคิดไม่ถึงว่าจะทำได้พร้อม เล่าว่า เมื่อเวลา 10.30 น วันที่ 8 กพ 2565 ได้มีชายอายุประมาณ 35-40 ปี มาขอซื้อทองแท่งและทองรูปพรรณน้ำหนักรวมกว่า 200 บาท คิดเป็นเงิน 5.8 ล้านบาท อ้างว่าเถ้าแก่จะซื้อไปแจกลูกน้อง จึงเอาทองมาให้เลือกอย่างระมัดระวังเพราะเป็นทองจำนวนมาก หลังจากตกลงราคากันเรียบร้อยชายคนดังกล่าวได้ติดต่อทางไลน์กับชายอีกคนที่อ้างเป็นเถ้าแก่ แล้วขอชื่อเจ้าของร้านเพื่อจะเอาเงินเข้าบัญชีธนาคาร สาขาโรบินสัน และประมาณ 10 นาที ได้มีข้อความแจ้งเตือนมาในโทรศัพท์ว่ามีเงินเข้ามาในบัญชี 5.8 ล้านบาท ตนก็ยังไม่มั่นใจ จึงให้ลูกน้องภายในร้านเอาสมุดบัญชีไปปรับที่ธนาคารพบว่ามีเงินเข้าบัญชีเต็มจำนวนที่ตกลง

...

แต่ตนก็ยังไม่มั่นใจได้โทรสอบถามพนักงานธนาคารพบว่า เป็นการเขียนเช็คเข้าบัญชี ซึ่งต้องใช้เวลาในการเคลียร์ริงจึงแจ้งไปว่า ทางร้านต้องการเงินสด คาดว่าชายคนดังกล่าวน่าจะรู้และไหวตัวทันรีบออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว จึงให้ลูกน้องตามไปดูพบว่าได้จอดรถห่างจากร้านประมาณ 50 เมตร คาดว่าน่าจะเป็นการเตรียมการไว้แล้วจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นางรอง เพื่อให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

หลังจากนั้นได้โทรแจ้งให้ญาติซึ่งเปิดร้านทองเช่นเดียวกันที่จังหวัดสุรินทร์ให้ทราบถึงพฤติกรรมของคนร้าย ต่อมาญาติที่จังหวัดสุรินทร์แจ้งมาว่าชายคนดังกล่าวมาขอซื้อทองในลักษณะเดียวกันจึงปฏิเสธการขาย และมาทราบอีกทีว่ามีร้านทองถูกหลอกซื้อทองจำนวน 30 บาทได้สำเร็จ จึงอยากแจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการร้านทองระวังคนร้ายแก๊งนี้เชื่อว่าทำเป็นขบวนการ และทราบต่อมาว่าชายคนเดียวกันไปก่อเหตุที่ จ.หนองคาย ได้ทองไปตามที่ต้องการ