เลขาฯ รมว.ยุติธรรม รับเรื่องร้องทุกข์ คดีสาวถูกข่มขืนสุดท้ายตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังรับไม่ได้สู้คดี 3 ปีและศาลฎีกายกฟ้อง ยอมรับ กฎหมายยังมีช่องโหว่ แนะเชิญหลายหน่วยงานร่วมหารือแก้ไขปัญหา สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมต่อประชาชน


เวลา 09.30 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องร้องทุกข์จากสามีของหญิงที่เสียชีวิต ที่ต้องการร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เป็นตัวแทนช่วยเกาะติดคดี กรณีภรรยาถูกพี่เขยตัวเองข่มขืนกระทำชำเรา โดยได้สู้คดีมาตลอดเป็นระยะเวลา 3 ปี จนศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้อง แต่เกิดอาการเครียดจนก่อเหตุกินยาเบื่อฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง นอกจากนี้ ครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องการให้ตรวจสอบคดีนี้ว่ามีการวิ่งเต้นหรือไม่ หรือมีพยานปากใดเบิกความเท็จ หรือให้การเท็จในคดี หรือมีพยานหลักฐานปลอมหรือไม่ และเหตุใดศาลฎีกาจึงมีคำสั่งยกฟ้องโจทก์ และขอให้ตรวจสอบข้อกฎหมายว่ามีมาตรการใดในการช่วยเหลือผู้เสียหายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี ในกรณีคดีถึงที่สุดแล้วเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียชีวิต

...

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า ในนามของเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยหลังเกิดเรื่องในส่วนของกระทรวงยุติธรรมเราได้เข้าไปช่วยเยียวยาสิทธิค่าตอบแทนในคดีอาญาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว แต่เราคงต้องพิจารณาทบทวนบทเรียนเกี่ยวกับช่องว่างของกฎหมายที่มีอยู่ โดยตนจะนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือซึ่งเราต้องนำมาศึกษาร่วมกันเพื่อหาทางแก้ไข โดยคดีดังกล่าวเจ้าพนักงานสอบสวนต้องดูว่าพยานหลักฐานในคดีครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่อย่างไร เหตุใดศาลฎีกาจึงมีคำสั่งยกฟ้องเพราะครอบครัวผู้ตายยังติดใจ แต่คงไม่ขอก้าวล่วงอำนาจศาล อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้กฎหมายเด็ดขาดและศักดิ์สิทธิ์จริงและอยากให้เคสดังกล่าวเป็นกรณีศึกษา ซึ่งตนอยากให้นักกฎหมาย ศาล ทนาย และอัยการ ที่มีความชำนาญเข้ามาช่วยกันแก้ไขเพื่อหาวิธีลงโทษคนทำผิดให้หนักที่สุด.