เชื่อยังอยู่ในประเทศ ตำรวจไทยเร่งตามล่า 2 มือปืนต่างชาติ กระหน่ำยิงปิดบัญชีสมาชิกแก๊งมาเฟียข้ามชาติอย่างอุกอาจที่ภูเก็ต พบภาพเดินเท้าเปล่าอย่างใจเย็น ถอดเสื้อโยนทิ้ง ท่าทางชำนาญพื้นที่ คาดมาดูลาดเลาศึกษาลู่ทางอย่างดี ตำรวจแบ่งกันทำงานทั้งสืบสวนสอบสวนแกะรอยไล่ล่า

วันที่ 8 ก.พ. 65 ความคืบหน้าการติดตามจับกุม 2 มือปืนต่างชาติ กระหน่ำยิงหนุ่มอินเดีย สัญชาติแคนาดาเสียชีวิตที่ลานจอดรถหน้าวิลล่าริมหาดราไวย์ หมู่ 5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา จนรุ่งเช้าวันที่ 5 ก.พ. แม่บ้านของวิลล่ามาพบศพนายแมนดิป ซิง อายุ 32 ปี สัญชาติแคนาดา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยที่เกี่ยวข้องตั้งวอร์รูมที่โรงแรมดังกล่าว เพื่อใช้เป็นสถานที่ประชุมสรุปความคืบหน้าของคดีวันต่อวัน

ล่าสุด เวลา 14.00 น. วันที่ 8 ก.พ. 65 ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 พร้อมด้วยชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และชุดสืบสวน บก.ป. แยกย้ายลงพื้นที่ต้องสงสัยที่คาดว่าอาจเป็นสถานที่ที่ 2 มือปืนพักอาศัยในย่าน ต.ราไวย์ อ.เมือง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุราว 2-3 กม. เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย หลังพบภาพ 2 มือปืนเดินผ่านกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ หลังก่อเหตุ จนกระทั่งพบหมวกแก๊ปและเสื้อฮู้ดแขนยาวที่เชื่อว่าเป็นของคนร้ายถอดทิ้งอยู่บริเวณสวนยางพารา โดย พฐ.ได้ส่งหลักฐานทั้ง 2 อย่างไปตรวจหาดีเอ็นเอที่ พฐ.กลาง เพื่อเปรียบเทียบประวัติอาชญากรระหว่างประเทศจากตำรวจสากลและตำรวจแคนาดา เชื่อว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต หรือยังคงอยู่ในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างได้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มากขึ้น เพื่อขยายผลในการติดตามจับกุมตัว 2 คนร้ายให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวต่างแบ่งหน้าที่หลักๆ ออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.ชุดสอบสวนพยานแวดล้อม 2.ชุดสืบสวนขยายผลเส้นทางหลบหนี 3.ชุดเปรียบเทียบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และ 4.ชุดแกะรอยไล่ล่าจับกุม โดยชุดสอบสวนมีการสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วรายปาก ตั้งแต่เริ่มพบศพผู้ตาย พยานที่พบหมวกแก๊ปและเสื้อฮู้ดที่เชื่อว่าเป็นของคนร้าย เป็นต้น

...

ส่วนชุดสืบสวนขยายผลเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายหลังก่อเหตุ ส่วนใหญ่เป็นการค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ ที่สามารถบันทึกภาพ 2 คนร้ายไว้ได้ จนสามารถเห็นรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้อย่างชัดเจนมากขึ้น เช่น รูปร่างสูงระหว่าง 170-180 ซม. 1 คนและอีก 1 คนสูงระหว่าง 166-170 ซม. ผิวขาวทั้ง 2 คน สวมแมสก์สีดำทั้งคู่ ซึ่งหลังก่อเหตุแล้ว คนร้ายทั้ง 2 คนต่างเดินข้ามถนนจากหน้าโรงแรมริม ถ.วิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง ห่างจากจุดที่เกิดเหตุราว 2 กม.อย่างใจเย็น โดยทั้งคู่ไม่ได้สวมรองเท้าแต่อย่างใด เดินเท้าเปล่ามาตั้งแต่หลังก่อเหตุ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดบางจุดแสดงให้เห็นว่าคนร้ายใจเย็นมาก ไม่มีการไปขึ้นรถหรือยานพาหนะใดๆ โดยได้เดินเท้าตั้งแต่หลังก่อเหตุ จนภาพหายไปบริเวณสวนยางพาราคนละฟากถนนกับจุดเกิดเหตุ ซึ่งคนร้ายค่อนข้างชำนาญเส้นทางหลบหนี คาดว่าก่อนลงมือก่อเหตุมีการมาเดินสำรวจเส้นทางที่จะใช้หลบหนีอย่างละเอียด โดยภาพกล้องวงจรปิดบางจุดสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นท่าเดิน เสื้อผ้าที่สวมใส่ รูปพรรณสัณฐานต่างๆ ขณะที่ชุดเปรียบเทียบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขณะนี้หลักฐานที่เก็บได้บริเวณที่เกิดเหตุ เช่น ปลอกหัวกระสุนปืนทั้ง 2 ขนาด ลายนิ้วมือของ 1 ใน 2 คนร้ายที่ไปสัมผัสที่บริเวณท้ายรถของผู้ตายที่จอดอยู่ขณะเกิดเหตุ ตลอดจนหลักฐานต่างๆ ที่พบภายในวิลล่าของผู้ตาย เช่น โทรศัพท์มือถือ 4-5 เครื่อง กัญชาแห้งบรรจุซองสีเงินและอื่นๆ พฐ.ภูเก็ตได้แยกส่งหลักฐานต่างๆ ไปยัง พฐ.สุราษฎร์ธานีและ พฐ.กลาง โดยต้องรอผลตรวจส่งกลับมายังพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ส่วนการแกะรอยไล่ล่าจับกุมคนร้าย งานหลักเป็นของชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกับ บก.ป. และสอบสวนกลาง

น.ส.แหม่ม นามสมมติ อายุ 33 ปี หญิงสาวเจ้าของกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณหน้าบ้านพักและเป็นคนที่พบหมวกแก๊ปและเสื้อฮู้ดถูกถอดทิ้งไว้ในสวนยางพารากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถามว่ามีชายต้องสงสัย 2 คนเดินผ่านมาแถวนี้บ้างหรือไม่ จึงไปตรวจดูภาพในกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ ซึ่งก็พบชาย 2 คนต้องสงสัยเดินเข้ามาภายในซอย โดยสวมเสื้อสีขาวเดินมาคู่กัน จากนั้นได้ถอดเสื้อโยนทิ้งในป่าละเมาะริมสวนยางพารา โดยเสื้อ 1 ใน 2 ตัวติดต้นไม้ห้อยอยู่ ส่วนอีกตัวถูกโยนเข้าไปด้านในป่าเป็นเสื้อแขนยาวทั้ง 2 ตัว โยนเสร็จ 2 คนร้ายก็เดินย้อนออกไปปากซอยแล้วหายไป โดยเสื้อทั้ง 2 ตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเก็บไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา.