ตำรวจ ปทส.นำกำลังร่วมกับหน่วยพญาเสือ บุกฟาร์มหมูเก่าที่พิจิตร รวบแก๊งค้าสัตว์ป่าคุ้มครองข้ามชาติ ยึดตัวเงินตัวทอง และลิงแสมรวมกว่า 60 ตัว ส่งดำเนินคดี สภ.หนองโสน
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2565 พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส., พ.ต.ท.เอนก นาคธร รอง ผกก.4 บก.ปทส. สนธิกำลังนายพนัชกร โพธิบัญฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม, นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยพญาเสือ, นายชัยชาญ ศรียงค์ หัวหน้าส่วนป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) และนายสมบัติ รุ่งแตงอ่อน หัวหน้าสายตรวจ เข้าตรวจสอบ “เขมวัชร์ฟาร์ม” เลขที่ 149 หมู่ 9 ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงหมูเก่า หลังได้รับร้องเรียนว่ามีการเพาะจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองโดยผิดกฎหมาย
ที่เกิดเหตุเป็นฟาร์มเลี้ยงหมูเก่าขนาดใหญ่ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึง พบนายวัง จาหาญ และ นายอนันต์ ศรีผา ซึ่งเป็นผู้ดูแล เมื่อทั้งสองคนเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้ขัดขวางการเข้าจับกุมโดยปิดประตู ฟาร์มไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และยังเห็นว่านายวัง และนายอนันต์ พยายามเปิดกรงซึ่งใช้กักขังสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ ลิง และเหี้ย ให้หลบหนีออกจากกรงเพื่อปกปิดการกระทำความผิด ทำให้สัตว์จำนวนหนึ่งหลุดไป จึงรุดเข้าตรวจสอบ พบว่าลิงดังกล่าวนั้น เป็นลิงแสม (Macaca fascicularis) สัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 154 และ เหี้ย (Varanus salvator) สัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ลำดับที่ 91
ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 รวม 61 ตัว ซึ่งส่วนหนึ่งได้บรรจุใส่ถุงตาข่ายเตรียมการเพื่อขนส่ง นอกจากนั้นยังพบกระบอกเป่าลูกดอก เข็มฉีดยาติดพู่เพื่อใช้ในการยิงยาสลบอีกด้วย
...
จากการตรวจสอบบริเวณฟาร์มพบมีการติดตั้งป้าย ซึ่งเป็นใบอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ออกโดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 อนุญาตให้นายลี เที่ยงอยู่ อายุ 73 ปี ชาวบ้าน หมู่ 9 ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร เพาะพันธุ์สัตว์ป่าตามมาตรา 18 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งมีบัญชีสัตว์แนบท้ายไม่ตรงกับความเป็นจริง และไม่ตรงกับสัตว์ที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดได้ในวันนี้
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การซัดทอดถึงขบวนการที่เกี่ยวข้อง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ และจะได้ทำการสืบสวนขยายผลหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ในส่วนของสัตว์ป่าคุ้มครอง เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดและส่งเก็บรักษาที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี และของกลางอื่นๆ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองโสน จ.พิจิตร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.