พ่อรับศพลูกสาววัย 18 ปี ถูกฆ่ายัดกล่อง ทิ้งคลองที่สุพรรณบุรี ไม่เชื่อตามที่ผู้ต้องหาวัย 20 ปีอ้างว่าแอบคบหากันแล้วถูกให้รับเป็นเมีย เผยมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มของคนร้ายมาก่อน ขอให้ตรวจดูหลักฐานอย่างละเอียด เป็นไปได้ที่ลูกจะถูกล่วงละเมิดทางเพศ ขณะที่เพื่อนชาวพม่าของคนร้ายบอกถูกขอให้ช่วยยกกล่องดำไปทิ้ง โดยที่ไม่รู้ว่าข้างในคือศพ

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 5 ก.พ. 65 นายประสาน หมทอง อายุ 53 ปี เข้าติดต่อขอรับศพ น.ส.สุมิตา พลเสน อายุ 18 ปี บุตรสาวที่เสียชีวิต คนร้ายนำศพยัดใส่กล่องพลาสติกสีดำไปโยนทิ้งในพงหญ้า ในคลองมโนรา หลังที่พักคนงานแพลนต์ปูนในพื้นที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี

คดีนี้หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนขออำนาจศาลออกหมายจับ นายธนากร อรัญทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 11 ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย โดยได้ประสานไปที่ตำรวจ สภ.สมเด็จ และ สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ติดตามจับกุมตัวนายธนากรได้ที่บ้านภรรยาในตำบลคำบง อำเภอห้วยผึ้ง เบื้องต้นจากการสอบสวนนายธนากรอ้างว่าบีบคอจนเสียชีวิต แล้วนำศพยัดใส่กล่องทิ้งในป่าด้านหลังแพลนต์ปูน

ด้านนายประสาน พ่อผู้ตาย ได้เปิดเผยขณะมารับศพลูกสาวว่า ผลการผ่าชันสูตรเบื้องต้น แพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนผลผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดจะต้องรอผลการตรวจอีกครั้ง โดยจะนำศพลูกสาวไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดชุมนุมพระ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี รู้สึกเสียใจกับการจากไปของลูกสาว อยากให้ผลการตัดสินคดีนี้ลงโทษประหารชีวิตผู้ต้องหา จะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดอย่างที่ลูกสาวตนต้องได้รับ

...

พ่อของ น.ส.สุมิตา เผยด้วยว่า ที่ผ่านมาตนทำงานเป็นพนักงานขับรถเทปูน เคยพบเห็นตัวผู้ต้องหาไปๆ มาๆ อยู่หลายครั้ง แต่ไม่เคยพูดคุยกับกลุ่มของผู้ต้องหา เพราะมีความไม่ลงรอยกันอยู่ก่อน และคิดว่าสาเหตุการฆ่าลูกสาวนั้น น่าจะมาจากเรื่องอื่นมากกว่าทะเลาะกันเรื่องชู้สาว ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์มือถือทั้ง Facebook และ LINE ของลูกสาวตนว่ามีการพูดคุยกับตัวผู้ต้องหาหาแบบไหน เพราะที่ผู้ต้องหาระบุว่ามีความสัมพันธ์กับลูกนั้น ตนเชื่อว่าไม่เป็นความจริง

ขณะเดียวกันที่ จ.สุพรรณบุรี พื้นที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานในคดีฆ่า น.ส.สุมิตา ซึ่งนายธนากร ผู้ต้องหา เป็นคนเดียวกับที่พ่อผู้ตายสงสัยเนื่องจากอยู่ห้องติดกับลูกสาว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่า โดยลงมือบีบคอ น.ส.สุมิตา จนเสียชีวิต หลังจากในคืนวันที่ 30 ม.ค. ผู้ตายมาหาที่ห้อง เพราะทั้งคู่แอบคบหากันอยู่ ซึ่งไม่มีใครรู้ และเกิดทะเลาะมีปากเสียงกัน โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายต้องการให้นายธนากรพาไปพบและเปิดตัวกับผู้ใหญ่ในฐานะภรรยา แต่ผู้ต้องหาไม่อยากรับเลี้ยง เพราะมีเมียมีลูกอยู่แล้ว และลูกเพิ่งคลอดได้เพียง 4 เดือน จึงทะเลาะกันจนลงมือบีบคอ น.ส.สุมิตา จนเสียชีวิต และนำศพยัดใส่ลงในถังพลาสติก ใช้กางเกงของผู้ตายผูกเท้าไว้เพื่อจะยัดให้เข้าไปในกล่อง ซึ่งตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาจาก สภ.ห้วยผึ้ง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ โดยเดินทางกลับมาถึง สภ.เมืองสุพรรณบุรี เวลา 11.00 น. โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาเมื่อเดินทางมาถึงมีอาการเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ทางตำรวจจึงต้องพาไปพักเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อน โดยได้ซื้อข้าวและน้ำเข้าไปให้กิน และให้ตำรวจดูแลเป็นพิเศษ เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะคิดสั้น จากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาออกมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ขณะที่ นายประสาน พ่อของ น.ส.สุมิตา หรือน้องเต็น ผู้ตาย ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะคบหามีความสัมพันธ์กับคนร้าย ถ้าแน่จริงให้เปิดโทรศัพท์ดูว่ามีการคุยผ่านแชตผ่านไลน์กับน้องเต็นหรือไม่ และยังสงสัยติดใจว่าลูกจะถูกข่มขืนก่อนจะฆ่าหรือไม่ รวมถึงสงสัยว่าคนร้ายจะมีการเสพยาเสพติดด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า ตนเคยมีเรื่องบาดหมางระหว่างคนงานชุดที่ออกไป แล้วเอาคนร้ายรายนี้มาทำงานแทน แต่เป็นทีมงานเดียวกัน ไม่แน่ใจจะมีความเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงหากรับศพลูกกลับมาแล้วจะนำแหวนทองไปมอบให้ผู้หญิงคนที่ไปพบกล่องแล้วไปตามตนมาดูจนพบศพลูกสาว ตามสัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้ ไม่เช่นนั้นคงต้องออกตามหาลูกจนไม่เป็นอันทำกิน 

นางสาวเอ (นามสมมติ) ผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่ามีความสัมพันธ์กับน้องเป็นเรื่องจริง ไม่มีแน่นอน วันนั้นคนที่คุยกับน้องถึงเวลา 00.29 นาที เป็นคนสัญชาติลาว เขาทักแชตคุยกัน น้องเขายังแคปหน้าจอส่งมาให้ดูว่าคุยครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เขาคุยกับแฟนตลอด น้องมีแฟนอยู่แล้ว ส่วนกลางคืนน้องเขาชอบใส่กางเกงขาสั้นและออกไปซื้อของกินข้างนอก แต่ไม่ไปทุกวัน ไม่เชื่อที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เพราะศพพูดไม่ได้ แต่ผู้ต้องหาพูดได้ จะอ้างอะไรก็ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับน้อง อยากถามว่าทำน้องทำไม เพราะน้องเป็นคนดี

ส่วน นายลองเอ ชาวพม่า กล่าวว่า ตนเป็นคนช่วยนายธนากร คนร้าย ยกกล่องดำลงมาจากห้องและนำไปโยนทิ้ง โดยเมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ. เวลาประมาณ 3 ทุ่ม นายธนากรได้เรียกตนบอกให้มาช่วยยกขยะลงไปทิ้งข้างล่าง ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าเป็นขยะ จึงขึ้นไปช่วยยก พอเข้าไปในห้องนายธนากรก็เดินพาไปที่ห้องน้ำซึ่งกล่องดังกล่าววางอยู่ในห้องน้ำ ตอนยกออกมาตนก็สงสัยอยู่ว่าทำไมขยะมันหนักจัง จึงถามไปว่าใช่ขยะจริงๆเหรอ นายธนากรก็บอกว่าขยะจริง จากนั้นก็โยนทิ้งไป แล้วกลับไปนอนตามปกติ จนมาวันนี้จึงรู้ว่าในกล่องมีศพคนตาย ขณะที่เพื่อนคนงานของผู้ต้องหากล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นคนอารมณ์แบบผีเข้าผีออก หลังน้องหายไปก็ได้เข้ามาทำงานแป๊บเดียวแล้วก็หายไป สังเกตเห็นอาการแปลกๆ วิ่งไปวิ่งมา ทำงานด้วยกันทุกวันก็ดูเป็นคนทำงานดี ส่วนเรื่องที่บอกมีสัมพันธ์กับน้องเต็น ไม่เคยรู้เรื่องนี้ และไม่มีใครรู้ เขาไม่เคยเล่าให้ฟัง

...

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 จะเดินทางมาแถลงข่าวเพื่อสรุปผลการจับกุมผู้ต้องหาฆ่าคนตายอย่างละเอียดอีกครั้ง.