เมียหลวงเสี่ยก้องเกาลัด พบ ผกก.สภ.ท่าม่วง ขอให้สอบเพิ่มเติมปมคลิปตกรถ ติดใจทำไมหลังเกิดเหตุไม่ช่วย ด้านสาวคู่กรณี พร้อมทนายเดชา ตั้งโต๊ะแจง ไม่มีเจตนาปล่อยสามีตาย คิดว่าเรียกร้องความสนใจ

กรณีการตายของนายอภิชาต พูลเผือก หรือ เสี่ยก้อง อายุ 39 ปี เจ้าของธุรกิจร้านเกาลัดชื่อดังในจังหวัดกาญจนบุรี ที่เสียชีวิตจากเหตุโดดออกจากรถเอง ต่อมามีคลิปจากกล้องติดรถว่อนโซเชียล จนเกิดเหตุการณ์ญาติคนตายโวยกลางงานเผาศพ โดยในคลิปเป็นภาพเสี่ยตกรถที่ขับโดย "แหม่ม" หญิงสาวคนสนิท และมีเสียงคาดว่าน้องชายของหญิงคนสนิทที่ขับรถตามหลังไม่ยอมช่วย แถมไม่โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ ปล่อยทิ้งไว้นานกว่ายี่สิบนาที จนเสี่ยเริ่มอาการสาหัส สุดท้ายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ญาติจึงเตรียมเข้าแจ้งความเอาผิด หญิงสาวคนสนิท เชื่อหากรีบนำส่งโรงพยาบาลจะไม่เสียชีวิต ต่อมา พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี สั่งการให้สืบจังหวัดลงพื้นที่ร่วม สภ.ท่าม่วง สืบสวนขยายผลหาข้อเท็จจริงหลังคลิปปรากฏ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 65 ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ. ศราวุธ ศรีสังวรณ์ ผกก.สภ.ท่าม่วง พร้อม พ.ต.ท.สมหวัง พานแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าม่วง และ พนักงานสอบสวน ได้ร่วมหารือเกี่ยวกับประเด็นคลิปว่อนโซเชียล โดย พ.ต.อ.ศราวุธได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ทำสำนวนให้ครบถ้วนหากผู้เสียหายหรือญาติผู้เสียชีวิตมีความเห็นสงสัยประเด็นใด ก็ให้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ ให้ครบถ้วน

...

ต่อมา เวลา 11.00 น. น.ส.พภัสสรณ์ ปิ่นจุ หรือ นุ่น อายุ 37 ปี ภรรยาของเสี่ยก้อง พร้อม นางลักษ์ชนก ฮิดาคา อายุ 39 ปี พี่สะใภ้ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ. ศราวุธ ศรีสังวรณ์ ผกก.สภ.ท่าม่วง เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นสงสัยติดใจเรื่องคลิปที่เผยแพร่

นางสาวพภัสสรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากตนเห็นคลิปความยาว 5 นาทีแล้ว รู้สึกสงสัยติดใจมาก เพราะมีการเอาคลิปความยาว 10 กว่าวินาที หลังจากที่สามีอยู่โรงพยาบาล เป็นช่วงที่สามีโดดออกจากรถสั้นๆ เท่านั้น ทีแรกเราไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แต่พอดูคลิปใหม่ความยาว 5 นาที มีเสียงผู้ชายพูด ไม่ต้องช่วย ไม่ต้องช่วย แบบนี้ทำให้ติดใจว่า เรื่องจริงเป็นอย่างไรก็มาบอกกับทางตำรวจให้ช่วยสอบสวนเรื่องนี้ต่อไปด้วย รวมถึงเรื่องธุรกิจของสามีที่ร่วมกับคนกลุ่มนี้ก็อยากจะขอทราบเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจอีกด้วยเช่นกัน

ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธ เปิดเผยว่า ตำรวจพร้อมจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ติดใจประเด็นใดก็จะสอบสวนให้สิ้นความ พนักงานสอบสวนคงติดต่อหญิงที่ไปกับผู้ตายและชายที่มีเสียงในคลิปมาสอบปากคำเพื่อทราบข้อเท็จจริงต่างๆ ต่อไป

ต่อมา เวลา 14.30 น. น.ส.แหม่ม และ นายเจฟ น้องชาย คู่กรณีที่อยู่ในรถที่เสี่ยตกรถมาด้วย ได้เปิดแถลงข่าวที่สำนักงานทนายเดชา ที่กทม. โดยแหม่ม ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะปล่อยให้สามีเสียชีวิต ส่วนเรื่องการโดดรถนั้น มาจากการทะเลาะกันกับตน โดยตนคบกับผู้ตายที่เป็นสามี อยู่กินฉันสามีภรรยาอย่างเปิดเผยมานานกว่า 5 ปี และเพิ่งทราบว่าสามีพาภรรยาอีกคนที่สามีบอกกับตนว่าเลิกยุ่งกันแล้วไปฝากครรภ์ ตนจึงต้องการไปเคลียร์เรื่องนี้ที่บ้านภรรยาคนนั้น แต่สามีไม่พอใจ สามีบอกว่าถ้าไม่หยุดรถจะโดดจากรถ ตนนึกว่าสามีมักมีอาการแบบนี้ประจำ แต่ก็ตกใจมากที่สามีโดดรถจริงๆ ส่วนเรื่องที่น้องชายบอกว่าไม่ต้องไปช่วย หลังโดดรถ น้องชายคิดว่าสามีเรียกร้องความสนใจ จึงไม่อยากให้ตนสนใจแต่เมื่อเห็นว่าเขาเจ็บจริง ตัวเองกับน้องชายก็เข้าไปช่วยและเรียกรถพยาบาลมาช่วยนำส่ง รพ.ต่อไป

"ยืนยันว่าตนก็สูญเสียสามีเช่นกัน ตนก็มีลูกเล็กเช่นกัน ไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น แต่ตามข่าวที่ปรากฏทางสื่อต่างๆ ว่า ตัวเองปล่อยให้สามีโดดลงรถจนบาดเจ็บโดยไม่ช่วยเหลือ จนสามีเสียชีวิต ตรงนี้มันเป็นการใส่ร้ายตนและน้องมาก อยากบอกสังคมว่า ตนเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้นมากกว่าทุกคน ตนสูญเสียเสาหลักของครอบครัวเช่นกัน" แหม่ม หญิงสาวคู่กรณี กล่าว.

...