สาวเอนฯ วัย 27 พร้อมทนายตามคดีถูกลูกค้าลวงข่มขืนในห้องน้ำบนโรงแรมที่ถูกเช่าจัดปาร์ตี้ ที่ สน.คลองตัน หลังผ่านมา 5 เดือนคดีไม่คืบ ยันจะเอาผิดถึงที่สุด ตร.แจงจะส่งผู้ต้องหาให้อัยการ 27 ม.ค.นี้

ที่ สน.คลองตัน เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ม.ค. 25656 นายบุญมี จอมหงษ์ ทนายความ พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.กิตติ์ ยังมี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.คลองตัน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี กรณีถูกลูกค้า 2 คนข่มขืนโดยไม่ยินยอม และเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่าผลตรวจร่างกายจากแพทย์ไม่พบร่องรอยข่มขืน รวมถึงได้รับการติดต่อให้รับเงินเพื่อจบคดี

น.ส.เอ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 ได้รับการว่าจ้างให้รับงานเอนเตอร์เทน ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านพระราม 4 แขวงวัฒนา เขตคลองเตย กรุงเทพฯ มีกลุ่มลูกค้า 5 คน ในราคา 3,500 บาท และมีหญิงสาวทำหน้าที่เอนเตอร์เทน อีก 2 คนที่ไม่รู้จักกัน ถูกว่าจ้างให้มาทำงานนี้ด้วย โดยทำงานตั้งแต่ 22.00-04.00 น. ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ตนถูกนายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี และนายสุธน (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ทำการข่มขืนในห้องน้ำของโรงแรมดังกล่าว ระหว่างเกิดเหตุตนได้แจ้งไปทางแฟนตนให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนและบุคคลทั้งหมดถูกจับกุมในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

...

ต่อมาวันที่ 17 ส.ค. 64 ตนได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.คลองตัน แต่คดีไม่คืบหน้า พนักงานสอบสวนอ้างว่าผู้ต้องหาติดโควิด-19 แต่เมื่อเห็นว่าคดีผ่านมาแล้ว 5 เดือน รวมถึงระหว่างการสืบสวนสอบสวนตำรวจอ้างว่าถุงยางอนามัยที่พบในที่เกิดเหตุไม่มีดีเอ็นเอของผู้ต้องหาและดีเอ็นเอของตน ส่วนผลตรวจร่องรอยข่มขืนจากโรงพยาบาลตำรวจ ตำรวจอ้างว่าแพทย์ลงความเห็นว่าไม่มีร่องรอยการข่มขืน เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ประกอบช่วงแรกมีตำรวจพยายามหว่านล้อมให้ยอมความ อ้างว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอ แต่ตนต้องการดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่ขอรับเงิน รู้สึกเจ็บใจที่หลังถูกข่มขืน ตนนั่งร้องไห้ แต่คนร้ายกับหัวเราะไม่มีท่าทีสลด

น.ส.เอ ยืนยันว่า ตนรับเพียงแค่งานชงเหล้า เล่นเกม หรืองานเอนเตอร์เทนเท่านั้น ไม่รับงานที่มีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น ไม่แน่ใจว่าลูกค้าวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น หรืออาการเมาเป็นเหตุให้ควบคุมตนเองไม่ได้ ปกติแล้วตนทำงานฟรีแลนซ์และทำงานกลางคืนกับแฟนที่สถานที่บันเทิงแต่ผับปิดเพราะโควิด-19 จึงหารายได้เสริมเพื่อส่งเงินให้ครอบครัว

นายบุญมี ทนายของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า นำหลักฐานเป็นข้อความแชตทางไลน์ที่ผู้เสียหายส่งหาแฟนให้มาพาตัวออกจากที่เกิดเหตุ และหลักฐานการโอนเงิน 20,000 บาท จากเพื่อนของผู้ต้องหาที่ต้องการให้ยอมความมามอบให้พนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่า เตรียมส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวน ให้กับพนักงานอัยการ ในวันที่ 27 ม.ค.นี้ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะการรุมโทรม แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธ ทั้งนี้ ตนได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ให้สอบปากคำแฟนของผู้เสียหาย และพ่อของผู้เสียหาย ที่ได้พูดคุยกับสาวเอนเตอร์เทนรายอื่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นพยานประกอบสำนวน ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุ หลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมผู้เสียหายและผู้ต้องหาในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผู้ต้องหาพยายามจะขอโทษ แต่ผู้เสียหายไม่ต้องการ เนื่องจากต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หากพนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมให้ จะยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมกับพนักงานอัยการต่อไป.