นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ขึ้น สน.ลุมพินี รับทราบข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีร่วมชุมนุม ราษฎรพิพากษามาตรา 112 บอกไม่กังวล ห่วงแต่กระบวนการยุติธรรมถูกใช้เป็นเครื่องมือลิดรอนสิทธิ ปชช.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่ สน.ลุมพินี น.ส.คอรีเยาะ มานุแช นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงศักดิ์ การรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ลุมพินี เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการร่วมกิจกรรม ราษฎรพิพากษามาตรา 112 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2564

น.ส.คอรีเยาะ เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจมาเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหา เนื่องจากขณะนี้พื้นที่กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ที่สามารถจัดกิจกรรมในลักษณะการรวมกลุ่มของประชาชนได้ นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางการเมือง ทั้งนี้ ตนมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กฎหมาย พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ดังกล่าว ในการกลั่นแกล้ง เนื่องจากมีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กับประชาชนที่มีความเห็นต่างทางการเมืองโดยเฉพาะ.
...

น.ส.คอรีเยาะ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่มีความกังวลอะไร เพียงแต่เป็นห่วงในด้านกระบวนการยุติธรรม ว่าจะถูกผู้มีอำนาจทางกฎหมายใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนหรือไม่ ตนก็ต้องทำตามกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง โดยไม่ใช้เพื่อลิดรอนสิทธิของประชาชน ขณะนี้ตนทราบว่ามีผู้ที่โดนหมายเรียกจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวประมาณ 17 คน และเดินทางมาพร้อมตนในวันนี้ 4 คน ทั้งนี้ตนยืนยันว่าประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้นอกจากนี้

ตนมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้นสามารถควบคุมได้ ตามรัฐบาลได้ประกาศออกมา ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านวัคซีน การรักษา หรือการเยียวยา จึงไม่จำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการทำกิจกรรมของประชาชนในลักษณะที่เป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองแต่อย่างใด.