ทำไปเพราะรักเมีย พ่อเลี้ยงน้องสายฟ้า วัย 6 ขวบที่ถูกทำร้ายนอนตายในรถ เปิดใจครั้งแรก โกหกตำรวจว่าเป็นคนทำร้ายลูกเลี้ยง ทั้งที่คนทำคือภรรยา ซึ่งเป็นแม่เด็ก เผยที่ผ่านมาเป็นคนที่คอยปกป้องน้อง คืนไหนที่ต้องไปจับปูก็จะพาไปนอนในรถเพราะกลัวแม่ทำร้าย
วันที่ 6 ม.ค. พ.ต.ท.สมหมาย อมรอรช รอง ผกก.สภ.แหลมงอบ เดินทางลงพื้นที่บ้านแหลมทองหลาง ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด พื้นที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรม ด.ช.สายฟ้า อายุ 6 ขวบ อีกครั้ง หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นำตัวนางนลินรัตน์ ถนอมวงษ์ มารดาของ ด.ช.สายฟ้า มาส่ง หลังได้รับการประกันตัวชั้นศาลแล้ว พร้อมนายปัญญา พ่อเลี้ยง แต่ชาวบ้านไม่ต้อนรับนางนลินรัตน์ ต้องให้นางนลินรัตน์ ไปพักบ้านญาติที่อื่น และตำรวจได้มาทำความเข้าใจกับชาวบ้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันได้พบกับนายปัญญา ชัยเชียงเอม อายุ 44 ปี พ่อเลี้ยง โดยนายปัญญา กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ยอมรับว่าโกหกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำร้าย ด.ช.สายฟ้า เหตุเพราะรักภรรยามาก พร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเขา แต่เจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนจนทราบความจริงว่าภรรยาเป็นผู้ลงมือเอง
นายปัญญาเล่าให้ฟังว่าด้วยว่า ที่ผ่านมาได้คอยปกป้อง ด.ช.สายฟ้ามาตลอด เอาน้องมานอนในรถ ช่วงที่ตนออกไปจับปูตอนกลางคืน เพราะกลัวว่าภรรยาจะทำร้ายลูก หากอยู่บ้านก็มานอนเป็นเพื่อนเด็กแทบทุกคืน เพราะรักและห่วงใย ไม่อยากให้ ด.ช.สายฟ้า ถูกภรรยาบ่นและทุบตี สาเหตุการเสียชีวิตของ ด.ช.สายฟ้า นายปัญญารับว่าภรรยาคือผู้ลงมือ แต่ก็อยากให้ภรรยาพ้นโทษกลับมาอยู่เป็นครอบครัวเหมือนเดิม
ส่วนชาวบ้านหลายคน รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นายปัญญาเป็นคนดี ไม่เคยตีเด็ก ขณะที่เพื่อนของ ด.ช.สายฟ้าที่เรียนห้องเดียวกัน บอกว่าสายฟ้าโดนแม่ตีทั้งหัวและตามลำตัวหลายครั้ง
...
ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ เถียรทองศรี ผกก.สภ.แหลมงอบ ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น วันที่ 5 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวนายปัญญา และนางสาวนรินรัตน์ มาส่งที่บ้าน เนื่องจากสถานภาพของผู้ต้องหาทั้งสองคน ได้รับการประกันตัวแล้วในชั้นศาล โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ เพราะกรณีนายปัญญา เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาหลังสอบปากคำ ซึ่งนายปัญญาไม่ได้มีท่าทีหลบหนี และให้การสารภาพซึ่งเป็นผลประโยชน์ต่อการสืบสวน พนักงานสอบสวนจึงให้ประกันตัวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ ส่วนนางสาวนรินรัตน์ ได้รับการประกันตัวในชั้นศาลตั้งแต่เมื่อวานเช่นเดียวกัน