น้องชายขี้เมาฉุนหนัก ขอเงินพี่สาวไป หวังนำไปจ่ายประกันสังคมเพื่อรักษาตัว แต่ถูกปฏิเสธ จึงชักมีดปลายแหลมจ้วงแทง 7 แผล ดับคาบ้านพักอย่างน่าเวทนา
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 64 ที่ จ.เชียงใหม่ นายสุขสันต์ นามแสง อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาถูกตำรวจ สภ.สันกำแพง คุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมหลังจากเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 10 นิ้ว จ้วงแทงนางสาวมาลี นามแสง อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ถึง 7 แผล จนเสียชีวิตจมกองเลือด ภายในบ้านพักบ้านแม่ปูคา หมู่ 5 ตำบลสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
จากการสอบสวน นายสุขสันต์ ให้การว่า เมื่อคืนตอนได้ดื่มสุราอยู่หน้าบ้านพัก และหลังจากดื่มสุราได้เดินกลับบ้านไปเพื่อจะไปนอน และไปเจอพี่สาวก่อนจะพูดและขอเงิน 1,000 บาท เพื่อไปจ่ายค่าประกันสังคม เนื่องจากไม่ได้จ่ายมา 3 เดือนแล้ว เกรงว่าจะถูกตัดสิทธิ์ เพราะตนเองป่วยต้องใช้สิทธิ์รักษาประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง แต่พี่สาวบอกว่าไม่มี ทำให้ตนเองโมโหคว้ามีดจ้วงแทงพี่สาว ยอมรับว่าทำไปด้วยความเมาและขาดสติ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิด หลังเกิดเหตุก็ไม่ได้หนีไปไหน นั่งรอมอบตัวอยู่ในบ้านพัก
ด้านนางอรนงค์ ฮาวคำฟู อายุ 59 ปี น้องสาวของผู้ตาย และเป็นพี่สาวของผู้ต้องหา เล่าว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าน้องชายจะฆ่าพี่สาวของตัวเอง โดยนายสุขสันต์เป็นน้องคนสุดท้อง ที่ผ่านมาทำงานโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ชอบดื่มสุราเป็นประจำจึงทำให้ประสบอุบัติเหตุเครื่องจักรบาดมือและต้องมารักษาตัว ไม่สามารถทำงานได้ พี่สาวคนโตจึงต้องทำหน้าที่ดูแลทุกวันนี้ โดยตนอยู่บ้านคนละหลังกับพี่สาวคนโต โดยพี่สาวไม่มีอาชีพเพราะอายุเยอะแล้ว ทุกวันนี้มาช่วยตนขายกับข้าวที่ตลาดแม่ปูคา โดยตนจ้างพี่สาววันละ 100 บาท ซึ่งก็พอเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ซึ่งทุกวันนี้พี่สาวก็เลี้ยงดูน้องชายตลอด ก่อนเกิดเหตุนั้นพี่สาวมาบ่นให้ฟังว่า ทะเลาะน้องชายมาก่อนแล้วเรื่องนี้ และขู่จะฆ่าและเผาบ้าน ซึ่งตนเองก็ได้เตือนพี่สาวถ้าแบบนี้ไม่ต้องกลับไปนอนบ้านแล้ว ให้มานอนบ้าน ตนกลัวน้องชายจะทำร้าย แต่พี่สาวไม่ฟัง เพราะกลัวว่าน้องชายจะเผาบ้าน กระทั่งมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว
...
“รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่น้องชายมาฆ่าพี่สาว ตนเองจึงต้องการให้ทางตำรวจดำเนินคดีกับน้องชายให้ถึงที่สุด ซึ่งทางญาติก็จะไม่มีการประกันตัวแต่อย่างใด เพราะผู้ต้องหาเป็นคนอารมณ์ร้าย เวลาเมาจะชอบหาเรื่องทะเลาะวิวาทด่าพี่น้องเป็นประจำ ตนก็เคยถูกน้องชายใช้มีดฟันบริเวณคางด้านขวา แต่ไม่เป็นอะไรมาก และไม่ได้แจ้งความเพราะเห็นว่าเป็นน้องชาย แต่รอบนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ” นางอรนงค์ กล่าว
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และจะมีการส่งฟ้องศาลในช่วงสายวันนี้ ส่วนศพของ นางสาวมาลี นามแสง ผู้ตายนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปชันสูตรที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงบ่ายทางญาติจะนำศพออกจากโรงพยาบาล
ซึ่งบรรยากาศที่บ้านของคนตายเป็นไปอย่างเศร้าโศก มีญาติและเพื่อนบ้านมาช่วยกันเตรียมงานศพ รอรับศพที่จะออกมาจากโรงพยาบาลบ่ายนี้ ก่อนที่จะมีการฌาปนกิจศพในวันจันทร์.