โชเฟอร์รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ เข้ามอบตัวแล้วกับตำรวจ สน.บางขุนเทียน เจอแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท ส่งฝากขังศาลแขวงบางบอนทันที ด้านคนเจ็บเชื่อพระหน้ารถ 3 องค์ช่วยชีวิต มารับเคราะห์แทน

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ พุ่งชนรถเก๋ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย จุดเกิดเหตุหน้าห้างแม็คโครบางบอน ถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าพระราม 2 ช่องทางด่วน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2564 น.ส.ปรางค์ทิพย์ คงเปี่ยม อายุ 32 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บและเป็นผู้ที่ขับรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุ เปิดเผยผ่านโทรศัพย์ว่า ในช่วงเกิดเหตุตนเองกำลังขับรถกลับบ้าน มีน้องสาวและหลานสาวนั่งมาด้วย ขับมาเลนขวาสุด คู่กรณีขับมาเลนซ้าย แต่คู่กรณีก็เปลี่ยนเลนมาทางด้านขวาอย่างรวดเร็วจนมากระแทกรถตนเบียดกับแบริเออร์ข้างทาง ซึ่งเหตุการเกิดขึ้นเร็วมาก ตนสลบไปตั้งแต่ถูกเบียดในครั้งแรก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องและหลานกระเด็นออกนอกรถ มารู้ตัวอีกทีตอนที่พลเมืองดีวิ่งมาเรียกตน ส่วนอาการบาดเจ็บ เจ็บที่ศีรษะเล็กน้อย มีอาการร่างกายชาซีกซ้ายไหล่ถึงสะโพก ส่วนน้องสาวได้รับเจ็บที่ศีรษะและสะโพก ด้านหลานน่าเป็นห่วงเพราะยังเด็ก ที่ได้รับบาดเจ็บเอ็นมือขาด ได้รับการผ่าตัดแล้วเมื่อคืนกำลังพักรักษาตัวอยู่

...

ทั้งนี้นายจ้างของคู่กรณีมาพบและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมบอกว่าลูกน้องตกใจ จึงไม่ได้ลงไปช่วย ก่อนจะขึ้นแท็กซี่ไปหลบหนีไปตั้งหลัก ทั้งนี้ตนได้ก็ขอพูดคุยกับคนขับคู่กรณี แต่นายเจ้าไม่ให้เจอ บอกว่าจะพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ก่อน ทั้งนี้การที่ขอพบคู่กรณีไม่ใช่เพราะเหตุผลอะไร ตนแค่ต้องการฟังความจริงจากปากของคู่กรณีเท่านั้น ถ้าคู่กรณีมีเหตุผลมากพอตนจะไม่โกรธเลย ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการเคลียร์ หรือชดใช้ค่าสินไหมอะไร เพราะนายจ้างใช้ พ.ร.บ.รถยนต์จัดการในเรื่องค่าใช้จ่ายเบื้องต้นก่อน

ส่วนเรื่องพระที่ตั้งหน้ารถ 3 องค์ เศียรพระหักและชำรุดนั้น เชื่อว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน หรืออาจจะเป็นการมารับเคราะห์แทน เพราะ 3 องค์พอดีกับจำนวนคน

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายแพร ภูเชิดสาย อายุ 36 ปี เดินทางมามอบตัวกับ ร.ต.อ.ศรายุทธ์ สันทัด รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน โดยมี นายวิฐิสิริ มิ่งแก้ว อายุ 47 ปี ผู้จัดการ บริษัท เบญจสิริมิ่งขวัญแก้ว ทรานสปอร์ต จำกัด นายจ้างร่วมให้การกับพนักงานสอบสวน โดยนายแพรกล่าวว่า ขอโทษผู้บาดเจ็บ ตอนเกิดเหตุขับมาความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. อยู่เลนซ้ายสุดขับตกหลุมฝาท่อทำให้ประคองรถไม่อยู่จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สาเหตุที่ไม่ลงมาช่วยเพราะตนตกใจมาก และด้วยความกลัวจึงขึ้นแท็กซี่ไปบ้านเพื่อนที่สมุทรปราการ เมื่อตั้งสติได้จึงติดต่อนายจ้างพาเข้ามอบตัว

นายวิฐิสิริ มิ่งแก้ว ผู้จัดการบริษัท เบญจสิริมิ่งขวัญแก้ว ทรานสปอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าดูจากกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่าเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ สำหรับประวัติการขับรถของลูกจ้างนั้นทำงานที่บริษัทฯ มานานเกือบ 10 ปี ไม่เคยมีประวัติเฉี่ยวชนในลักษณะที่รุนแรงแบบนี้ ลักษณะนิสัยเป็นคนขี้กลัว พอหลังเกิดเหตุรู้สึกตกใจกลัวจึงนั่งรถแท็กซี่หลบหนี ก่อนติดต่อมาหาตนเพื่อให้พาเข้ามอบตัว โดยปกติแล้วผู้ก่อเหตุมีความคุนเคยกับเส้นทางเนื่องจากใช้เส้นทางนี้ไปส่งของที่ จ.สมุทรปราการ เป็นประจำ มาตรการหลังจากนี้สำหรับผู้ก่อเหตุพิจารณาไปตามกระบวนการกฎหมาย ทางด้านการเยียวยาผู้บาดเจ็บ ตนได้รับผิดชอบให้เบื้องตนแล้ว หลังจากนี้คงให้ประกันเป็นผู้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายต่อ แต่ถ้ามีโอกาสอยากพาผู้ก่อเหตุไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บด้วยตัวเอง

พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้บาดเจ็บยืนยันว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้มีปัญหากันมาก่อน จึงไม่น่าเกิดจากความไม่พอใจบนท้องถนน ทั่งนี้ได้ประสานผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบสภาพรถจาก บก.จร. ให้ตรวจสอบสภาพรถบรรทุกว่ามีข้อบกพร่อง หรือมีเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ ส่วนเรื่องถนนชำรุดจะประสานกรมทางหลวง แขวงทางหลวงธนบุรีตรวจสอบเส้นทางมาประกอบการพิจารณา เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสทรัพย์สินเสียหายแล้วหลบหนีไม่แสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ผู้ถูกกล่าวหานั้นให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนได้คัคค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ จึงนำตัวส่งฝากขังศาลแขวงบางบอน ดำเนินการทันที.